Survey
* Your assessment is very important for improving the workof artificial intelligence, which forms the content of this project
* Your assessment is very important for improving the workof artificial intelligence, which forms the content of this project
NITROGEN METABOLISM Nitrogen Metabolism - Phycocyanin - 78% ปัจจัยจำกัดกำร - Phycoerytrin เจริญเติบโตของพืช - ATP - Protein - Coenzyme - Chlorophyll - Alkaloid - Nucleic acid - Vitamine - Phytochorme - Hormone บำงชนิด # พืชไม่ สำมำรถใช้ N2 ในรูปของ gas ได้ # N2 # NO3 reduced NO3 , + NH4 + สูญหำยไปจำกดินได้ งำยกว่ ำ NH4 Nitrogen Cycle N2 ในบรรยำกำศ ดิน นำ้ และในสิ่ งมีชีวติ มีกำร เปลีย่ นรู ปไปมำโดยกระบวนกำรทำงกำยภำพและชีวภำพ ซึ่งเกีย่ วข้ องกับสิ่ งมีชีวติ และไม่ มชี ีวติ เรียกกำร เปลีย่ นแปลงสำรประกอบ ไนโตรเจนนีว้ ่ ำ วัฏจักรไนโตรเจน (Nitrogen cycle) วัฏจักรไนโตรเจนอย่ ำงง่ ำย (Lea and Leegood, 1993) วัฏจักรไนโตรเจน (Taiz and Zeiger, 1991) ปฏิกริ ิยำทำงเคมีในวัฏจักรไนโตรเจน 1. Nitrogen fixation - nonbiological fixation Haber-Bosch process (high temp., high pressure) simplest equation for nitrogen fixation N2 + 3H2 2NH3 - Biological nitrogen fixation N2 + 8H - + 8e - + 16 ATP 2NH4+ + H2+ + 16ADT + 16Pi 2. Assimilation of ammonia NH4+ amino acid 3. Nitrification nitrifying bacteria + NH4 4. Denitrification NO3 - anaerobic NO3- N2 denitrifying bacteria 5. Nitrate reduction NO3NH4+ 6. Ammonification (mineralization) + organic matter NH4 Nitrogen fixing organism microbe Symbiosis Rhizobium, Actinomycetes Associations Azospirillum, Azotobacter Free living Azotobacter, Klebsiella (non-symbiotic organism) Rhodospirillum vegetative cells and heterocysts of nitrogen-fixing cyanobacterium Anabena cylindrica Symbiotic nitrogen fixers สิ่ งมีชีวติ 2 ชนิดอยู่ร่วมกัน และต่ ำงก็ทำประโยชน์ ให้ แก่ กนั 1. Symbiosis ระหว่ ำงพืชตระกูลถั่ว (Fam. Fabaceae หรื อ Leguminosae) กับแบคทีเรียพวก Rhyzobium ถั่ว : Carbon source Rhizobium : NH3 ตัวอย่ ำงกำรอยู่ร่วมกันระหว่ ำง Rhizobium กับพืชตระกูลถั่ว (Taiz and Zeiger, 1991) Rhizobium species R. leguminosarum R. trifolii R. phaseoli R. meliloti R. japonicum Preferred host genus Pisum (pea), Vicia (broad bean) Lens (lentil), Cicer (chick pea) Trifolium (clover) Phaseolus (kidney bean) Medicago (alfalfa) Melilotus (sweet clover) Glycine (soy bean) 2. Symbiosis ระหว่ ำง Klebsiella กับพืชทีอ่ ยู่ในเขต ร ้อน (tropical plants) เช่ น Psychotria sp. 3. Symbiosis ระหว่ ำง สำหร่ ำยสี เขียวแกมนำ้ เงินกับ พืชพวก gymnosperm เช่ น cycad 4. Symbiosis ระหว่ ำง สำหร่ ำยสี เขียวแกมนำ้ เงิน Anabaena กับแหนแดง (Azola) - มีควำมสำคัญต่ อนำข้ ำวในเขต Southeast Asia - Anabaena azolae ตรึง N2 ได้ สูงถึง 450 kg/N/ha/yr 5. Symbiosis ระหว่ ำงสำหร่ ำยสี เขียวแกมนำ้ เงิน กับ Fungi - ( Lichen) * สำหร่ ำยทำหน้ ำทีส่ ั งเครำะห์ ด้วยแสง + ตรึง N2 * Fungi ปล่ อยกรดบำงชนิดทำให้ หินผุ 6. Symbiosis ระหว่ ำงพวก Frankia (actinomycetes bacteria) กับพืชพวก alder (Alnus) * ควำมสั มพันธ์ แบบ actinorhizal association * มักพบในพืชพวก shurbs หรื อ tree Root nodule in Soybean Root nodule of Alder tree infected by Rhizobium japonicum infected by actinomycetes bacteria 7. Symbiosis ระหว่ ำง Fungi พวก mycorrhiza กับรำกพืช พวก Alder โดย Fungi จะให้ สำรพวกอนินทรีย์แก่ พืช โดยเฉพาะ P ประเภทของ Mycorrhiza 1. Ectomycorrhiza - สร้ ำง mycelium นอกรำกพืช - พบใน woody perennial species 2. Endomycorrhiza - สร้ ำง mycelium ใน cortex - ส่ วนใหญ่ พบในพืชพวก annual และ biennial พืชเศรษฐกิจส่ วนใหญ่ มี Fungi แบบ endomycorrhizal type Root infected by ectotrophic mycorrhizal fungi symbiosis ระหว่ ำง mycorrhiza กับรำก พืช (Taiz and Zeiger, 1991) กำรอยู่ร่วมกันของสิ่ งมีชีวติ แบบพึง่ พำกัน (Lea and Leegood, 1993) 1. Host : Legumes and Parasponia Rhizobiaceae Azorhizobium (fixes N2 eg planta) Bradyrhizobium (usually slow growing,some strains fix N2 eg planta) Photorhizobium (photosynthetic) Rhizobium (fast growing, most strains do not fix N2 eg planta) Sinorhizobium (fast growing) 2. Host : Non - legumes (actinorhizal plants) Alnus, Casuarina, Elaeagnus, Myrica Actinomycetales (Frankia) 3. Host : Various e.g. Gunnera (angiosperm), Macrozamia (cycad), Azolla (pteridophyte), Blasia (bryophyte), Rhizosolenia (diatom), Certain lichens (fungi), Siphonochalina (sponge) Cyanobacteria Associative nitrogen fixers เป็ นกำรตรึง N2 ทีเ่ กิดจำกกำรอยู่ร่วมกัน แบบ loosely symbiotic ฝ่ ำยหนึ่งได้ ประโยชน์ แต่ อกี ฝ่ ำย ไม่ ได้ เสี ยประโยชน์ กำรตรึง N2 ของพืชตระกลู ถัว่ ปมรำกถั่วมักมีแบคทีเรียพวก Rhizobium อยู่แบบได้ ประโยชน์ ท้งั สองฝ่ ำย พืชตระกูลถั่วได้ รับสำรประกอบไนโตรเจน (amino acid ชนิดต่ ำงๆ) แบคทีเรียได้ รับสำรพวก reduced carbon (แหล่ งพลังงำน) bact. เข้ ำสู่ รำกพืชทำง root hair สร ้างปมลักษณะกลมหรือรี ่ bact. อยู่รอบ root hair ทำให้ root hair ปลดปล่อยสำร เมือ บางอย่างออกมา ้ ผลให้ bact. เกิดกำรแบ่ งเซลล์ เพิม่ จำนวน สารนี มี bact. ผ่ ำน root hair ไปยัง cortex เรียก infected thread bact. เข้ ำไปอยู่ใน cytoplasm ของเซลล์พร้ อมกับปล่อยสำร ออกมา มีผลทาให้ป ริมาณ DNA ใน nucleuse ของเซลล ้ั cortex เพิม่ มำกขึน้ เกิดปมทีร่ ำก ในชน bact. ทีร่ วมกันอยู่เป็ นกลุ่มเรียกว่ ำ Bacteroid ภายใน bacteroid มีเอนไซม์ ทจี่ ำเป็ นต่ อกำรตรึง N2 จำกบรรยำกำศ @ กำรตรึง N2 ในภำคอุตสำหกรรมต้ องใช้ temp. สู ง และความด ันมาก @ Biological reduction of N2 NH3 เป็ นปฏิกริ ิยำ highly endergonic process ต้ องกำรพลังงำน 960 K.J mol-1 N fixed (Sprent and Raven, 1985) กลไกกำรตรึงไนโตรเจนโดยสิ่ งมีชีวติ (Mechanism of Biological Nitrogen Fixation) ลักษณะของสิ่ งมีชีวติ ที่สำมำรถตรึง N2 ได้ 1. มี enz. nitrogenase ในรู ป active form (ลักษณะเฉพำะของ N2 - fixing microorganism) 2. มีกลไกป้องกันไม่ ให้ enz. nitrogenase ทำปฏิกริ ิยำกับ O2 3. มีแหล่ งให้ electron และ proton 4. มีปฏิกริ ิยำกำรตรึงไนโตรเจน 5. มีสำรทีด่ กั ทำปฏิกริ ิยำกับแอมโมเนียที่เกิดจำกกำรตรึง N2 เอนไซม์ ไนโตรจีเนส * กำรศึกษำกระบวนกำรตรึง N2 เริ่มโดย Mc coy Wilson และ Burris มหำวิทยำลัย Wisconsin ในช่ วงปี 1930 * enz. nitrogenase เป็ น enz. ทีส่ ำคัญในกำรตรึง N2 * แยกได้ในปี 1959 โดย Carnahan, Mortensen และ Valentine * สกัด enz. นีจ้ ำก Clostridium pasteurianum * หลังจำกนั้นมีผู้สกัด enz. จำกสำหร่ ำยสีเขียวแกมนำ้ เงินที่ สามารถตรึง N2 ได้ กำรที่ไม่ สำมำรถแยก nitrogenase อำจเนื่องมำจำก 1. กำรแยก enz. ส่ วนใหญ่ ทำที่ temp. ต่ำๆ เพื่อป้องกันกำรเกิด inactivation แต่ enz. nitrogenase มักถูก inactivate โดย temp. ต่ำ (cold labile) 2. ต้ องแยก nitrogenase ในสภำพทีไ่ ม่ มี O2 (anaerobic condition) เพรำะ nitrogenase ถูก inactivate โดย O2 3. กำรทำงำนของ nitrogenase ต้ องกำร ATP ด้ วย 4. กำร reuced N2 ไปเป็ น NH3 ต้ องอำศัย strong reducing agent ซึ่งในอดีตยังไม่ พบ biological reduceing agent ที่เหมำะสม ต่อมาพบว่า ferredoxin เป็ น reducing agent ที่เหมำะสม สิ่ งที่จำเป็ นต่ อกำรตรึงไนโตรเจน (in vitro) 1. gas N2 (molecular nitrogen) 2. reducing agent คือ ferredoxin 3. ATP หรื อสำรอื่นที่ให้ ATP ได้ 4. non heme iron protein (NHI) ซึ่งมี Mo เป็ นองค์ ประกอบ 5. NHI protein อีกชนิดทีไ่ ม่ มี Mo ซึ่งสลำยได้ ง่ำย ใน low temp. (cold labile) กำรทดลองของ Evans และคณะ ในค.ศ. 1966 ทดลองสกัด nitrogenase จำกปมถั่วเหลือง ทดลองทีร่ ัฐโอเรกอน สหร ัฐอเมริกา ความสาเร็จของการทดลองเกิดเนื่ องจา ไม่ มี O2 เกีย่ วข้ องกับกำรทดลอง ป้ องกันไม่ ให้ มี phenol oxidase ในระบบ ใช้ gas-liquid chromatography เป็ นเครื่ องมือ สำหรับทดสอบ (assay) โดยใช้ ระบบกำร reduced ก๊ ำซ acetylene เป็ นก๊ ำซ ethylene โครงสร้ ำงและหน้ ำที่ของเอนไซม์ ไนโตรจีเนส (Structure and function of nitrogenase enzyme) ชนิดของ nitrogenase 1. Fe-Mo-protein (iron molybdenum protein) - เป็ นโปรตีนที่ไวต่ อควำมเย็น - Fe-Mo-protein มี MW ระหว่ ำง 100,000-200,0 - มี subunit ย่ อยคือ a2 กับ b2 ทีป่ ระกอบด้ วย Fe และ Mo เรียก component I - เมื่อถูกควำมเย็นจะสู ญเสี ย activity เป็ น cold labile 2. Fe-S protein (iron-sulfur protein) - sensitive ต่ อ O2 - มี MW 50,000-80,000 - ประกอบด้ วย 2 subunit ทีเ่ หมือนกัน เรียก component 2 บำงระบบจำแนก nitrogenase เป็ น 3 ชนิดดังนี้ 1. ชนิดที่ประกอบด้ วย Mo และเหล็ก (Mo-nitrogenase) 2. ชนิดที่ประกอบด้ วย Vanadium และเหล็ก (V-nitrogenase) (แทน Mo) (Rosendahl et al., 1992) 3. ชนิดที่ประกอบด้ วยเหล็ก แต่ มี Mo และ V น้ อย (Fe-nitrogenase) หรื ออำจเรียก alternative nitrogenase (Eady et al., 1987) N2 + 8H+ + 8e- + 16Mg. ATP 2NH3 + H2 + 16Mg. ADP + 16Pi โครงสร้ ำงของ nitrogenase ทั้ง 3 ชนิด Mo-nitrogenase V-nitrogenase Fe-protein MW 57-72 kDa subunit str. g2 Metal cont. 4Fe : 4S MoFe-prot. subunit str. a2b2 a = 50 kDa b = 60 kDa Fe-protein 63 kDa g2 4Fe : 4S VFe-prot. a2b2 d2 a = 50 kDa b = 60 kDa d = 14 kDa ‘Alternative’ nitrogenase Fe-protein (2) 65 kDa g2 4Fe : 4S Fe-prot. (1) a2b2 d2 a = 50 kDa b = 60 kDa d = 15 kDa โครงสร้ ำงของ nitrogenase ทั้ง 3 ชนิด (ต่ อ) Mo-nitrogenase V-nitrogenase Fe-protein Metal cont. 2Mo : 24-32 Fe : 24-30S Product of C2H2 reduct. C2H4 % electron flux to NH3 75 (balance to H2) Fe-protein 2V : 17-21 Fe : 18-20S C2H4 + C2H6 50 ‘Alternative’ nitrogenase Fe-protein (2) 24Fe : 18S C2H4 + C2H6 50 Molybdenum nitrogenase # Carnahan et al (1960) สกัด Mo-nitrogenase จำก Clostridium pasteurianum # ทำให้ inactive โดย O2 และควำมเย็น # ถ้ ำแยก enz. นีท้ อี่ ุณหภูมิ 4o C จะทำให้ สูญเสี ย activity # Mo-nitrogenase ประกอบด้ วยโปรตีน 2 ชนิด 1. Molybdenum iron protein หรื อ protein 1 หรื อ dinitrogenase (the larger Mo-Fe protein) 2. iron protein หรื อ protein 2 หรื อ dinitrogenase reductase (the smaller) @ Mo-Fe protein ประกอบด้ วย a2b2 tetramer @ มี MW ประมำณ 220 kDa (a 50 kDa และ b 60 kDa) @ ในโมเลกุล Mo-nitrogenase ประกอบด้ วย molybdenum, เหล็ก และซัลเฟอร์ ในอัตรำส่ วน 2Mo : 24-32Fe : 30S ต่ อโมเลกุล # Fe protein nitrogenase ion g2 diner มี MW 57-72 kDa # ประกอบด้ วยกลุ่มของ Fe4S4 ปฏิกริ ิยำกำรคะตะไลซ์ โดย nitrogenase 8(SO2) + 8OH- +8HSO3- N2 + 10H+ 2NH4+ + H2 16MgATP2- + 16H2O+ 16MgADP- + 16H2PO4- สรุปคุณสมบัตขิ องเอนไซม์ ไนโตรจีเนส 1. ประกอบด้ วยโปรตีน 2 ชนิด 2. ถูกทำลำยโดย O2 ได้ ง่ำย 3. มี Fe และ Mo เป็ นส่ วนประกอบของโมเลกุล 4. ต้ องกำร Mg ion ในกำรทำงำน 5. ในขณะที่ทำงำนจะเปลีย่ น ATP ไปเป็ น ADP 6. ถูกยับยั้งกำรทำงำน (inhibit) โดย ADP nitrogenase ทีพ่ บในสิ่ งมีชีวติ ทั้งหลำยจะมีคุณสมบัติ ่ และหน้าทีเหมื อนหรือคล้ายคลึงกัน nitrogenase มีคุณสมบัตทิ ำงเคมีทสี่ ำคัญคือ ทำปฏิกริ ิยำ กับ O2 ได้ ง่ำย หลังจำกถูกออกซิไดส์ แล้ ว nitrogenase จะเปลีย่ นเป็ น ่ และหมดหน้าที่ สารประกอบชนิ ดอืน nitrogenase ทำหน้ ำที่สำคัญในกำรตรึง N2 คือช่ วย reduced N2 ให้ เป็ น NH3 สำมำรถ reduce สำรประกอบทีม่ ี triple bond ได้ เกือบ ทุกชนิ ด เช่น nitrogen (N N) , acetylene (HC CH) ชนิดของสำรประกอบทีถ่ ูก reduced ด้ วย nitrogenase ได้ (Taiz and Zeiger, 1991) Substrate Dinitrogen (N N) Azide[N N N]Nitrous oxide (N N O) Cyanide ([C N]----) Alkyl cyanides (R C N) Cynamide (N CNH2) Acetylene (HC CH) Alkynes (R C CH) Allene (H2C C CH2) Proton (H+) Products NH3, H2 N2, N2H4, NH3 N2 CH4, NH3, CH3NH2 R CH2, NH3 CH4 , NH3, CH3NH2 H2C CH2 R HC CH2 H3C CH CH2 H2 ปฏิกริ ิยำหลำยปฏิกริ ิยำก็สำมำรถถูก reduced โดย nitrogenase ได้ N2 N 2O N 3C 2H 2 2H+ ATP NH3 H 2 + H 2O N2 + NH3 C 2H 4 H2 ADP + Pi Dinitrogen fixation Nitrous oxide reduction Azide reduction Acetylene reduction H2 production ATP hydrolytic activity * nitrogenase ไวต่ อ free O2 มำก พืชหรื อจุลนิ ทรีย์ทสี่ ำมำรถ ตรึง N2 ได้ ต้องมีกลไกปัองกันกำรทำลำย nitrogenase ของ O2 กลไกกำรป้ องกันไม่ ให้ nitrogenase สั มผัสกับ free O2 (Protective mechanism for nitrogenase) @ ในพืชตระกูลถัว่ มีสำร leghaemoglobin ในปมรำก มีทองแดง (Cu) เป็ นองค์ ประกอบทำให้ มีสีชมพู มีคุณลักษณะคล้ำย haemaglobin ในสั ตว์ @ ยังไม่ ทรำบหน้ ำทีข่ อง leghaemoglobin อย่ ำงชัดเจน @ leghaemoglobin ทำหน้ ำที่นำ O2 ทีอ่ ยู่ใน intercellular space ออกไปห่ ำงจำกที่ (site) ที่มีกำรตรึง N2 @ ในปมรำกทีไ่ ม่ มี leghaemoglobin จะไม่ สำมำรถตรึง N2 ได้ @ สำหร่ ำยทีต่ รึง N2 ได้ มักมี cell wall หนำ ป้องกัน O2 ซึมเข้ ำ บทบำทของ Leghaemoglobin ในกำรตรึง N2 - ภำยในปมรำกถั่วมีสีแดง เนื่องจำกมีีี Leghaemoglobin ซึ่งปมรำกที่มี Leghaemoglobin อยู่เท่ ำนั้นทีจ่ ะตรึง N2 - Leghaemoglobin มีควำมสำคัญต่ อกำรทำงำนของ เอนไซม ์ไนโตรจีเนส Rhizobium จะทำหน้ ำที่สร้ ำง precursor ของ heme group Leghaemoglobin ทำหน้ ำที่จับ O2 แล้ ว transport O2 ่ ไปยังส่วนต่างๆของปมเพือใช้ ใน กระบวนกำรหำยใจ การ reduced N2 ให้ เป็ น NH3 ในปฏิกริ ิยำกำรตรึง N2 ใช้ พลังงานในรู ปของ ATP ถึง 15-20 โมเลกุล การตรึงไนโตรเจน 1 โมเลกุลทั้งอิเลคตรอน โปรตรอน และ ATP อำจได้ มำจำกปฏิกริ ิยำกำรสั งเครำะห์ แสงหรื อ จากการหายใจ แหล่ งที่มำของอิเลคตรอน, โปรตอน กำรตรึงไนโตรเจน ( Nitrogen Fixing Reaction ) ปฏิกริ ิยำกำรตรึง N2 แบ่ งเป็ น 3 ขั้นตอนดังนี้ 1. ไนโตรเจนถูก reduced เป็ น diimide (HN=NH) 2. Diimide ถูก reduced เป็ น hydrazine (H2N-NH2) 3. Hydrazine ถูก reduced เป็ น NH3 N=N ATP Reduced ferredoxin 2e- nitrogenase HN=NH diimide 2e- nitrogenase H2N-NH2 (hydrazine) 2e- nitrogenase 2NH3 แสดงปฏิกริ ิยำกำรตรึง N2 * Nitrogenase เป็ นเอนไซม์ ทไี่ ม่ เฉพำะเจำะจงกับ substrate สำมำรถ reduce สำรอื่นได้ ด้วย เช่ น acetylene, CO, CN และ N2O * สำรเหล่ ำนีจ้ ะเป็ น competitive inhibitor ของกำร reduced N2 ควำมสั มพันธ์ ของพืชตระกูลถั่วกับ Rhizobium (Legume-Rhizobium association) มีข้อดีดงั นี้ 1. พืชตระกูลถั่ว สำมำรถตรึงไนโตรเจนได้ ในปริมำณมำกที่พืช จะนาไปใช้ประโยชน์ 2. ไนโตรเจนที่ตรึงได้ จะถูกเปลีย่ นให้ อยู่ในรู ปโปรตีนที่อยู่ ในรู ปของ dry seed 3. โปรตีนที่ได้ มคี ุณค่ ำทำงอำหำรสู ง เพรำะมี essential amino acid ครบ แต่ มี methionine, cystine และ cystein ต่ำ 4. ไนโตรเจนที่ตรึงได้ บำงส่ วนจะเหลืออยู่ในดิน กระบวนกำรสร้ ำงปมในพืชตระกูล ถั่ว 1. สำรบำงอย่ งที่ขบั ออกมำจำกรำกพื ำให้ Rhizobium (The ำformation of rootชจะท nodule) เคลื่อนที่เข้ ำไปหำและแบ่ งตัวรอบๆบริเวณขนรำก (root hair) 2. ขนรำกจะม้ วนตัวงอ เนื่องจำก Rhizobium ผลิตสำรพวก wall degrading enzyme 3. แบคทีเรียจะไปเกำะตรงบริเวณที่มกี ำรม้ วนงอ ก่ อให้ เกิดกำร break down ของ cell wall ของขนรำก แบคทีเรียเข้ ำไป ใน เซลล ์ของขนรากในรู ป infection thread 4. infection thread จะห่ อหุ้ม reproducing bacteria และ 5. infection thread จะบุกรุ กเข้ ำไปหำ polyploid cell ใน root cortex เท่ ำนั้น 6. infection thread จะหยุดกำรเจริญเติบโตเมื่อไป ถึง polyploid cell และกระตุ้นให้ มีกำรแบ่ งเซลล์ 7. ผลที่ได้ จำกกำรแบ่ งตัวของเซลล์ จะก่ อให้ เกิดปม ขึน้ ้ วย ประกอบขึนด้ - core region 8. Core region bacteria จะถูกเปลีย่ นเป็ น bacteroid ซึ่งมีขนำดเพิม่ ขึน้ จำกเดิม 10-40 เท่ ำ 9. Leghaemoglobin ถูกสร้ ำงในเซลล์ พืชและถูกส่ ง มำยัง vesicle ที่ห่อหุ้มแบคทีเรีย * ในกำรสร้ ำงปมรำกถั่ว Rhizobium กับรำกถั่วต้ องมี ความ specificity เนื่องจำกพืชจะมี lectin ซึ่งเป็ น plant protein ที่จับกับ Rhizobium * lectin จะทำหน้ ำที่คล้ ำยกับสะพำนเชื่ อม Rhizobium ให้ จับกับ root hair ของพืช เช่ น พืชพวก clover จะมี lectin ที่เรียกว่ ำ trifolin เป็ นตัวเชื่ อม Rhizobium กับ root hair ของ clover ประสิ ทธิภำพในกำรสร้ ำงปมของพืชตระกลู ถัว่ ปัจจัยที่ทำให้ กำรทำงำนของปมมีประสิ ทธิภำพ คือ เอนไซม์ Nitrogenase ซึ่งจะรีดวิ ส์ N2 ให้ เป็ น NH3 แล้ วรีดิวส์ + 2H ไปเป็ น H2 (และกำรเกิด H2 นีจ้ ะเกิดพร้ อมๆกับกำรรีดวิ ส์ N ) 2 ปริมาณ H2 ทีผ่ ลิตได้ จะขึน้ กับสิ่ งแวดล้ อมภำยใน กำรวัดอัตรำกำรตรึงไนโตรเจน (measurment of nitrogen fixation) วิธีกำรวัดกำรตรึงไนโตรเจน แบ่ งได้ ดงั นีค้ ือ 1. วัดจำกกำรเจริญเติบโตของจุลนิ ทรีย์ทสี่ ำมำรถตรึง N2 ได้ 2. วัดจำกปริมำณกำรเพิม่ N2 ในเซลล์ ของจุลนิ ทรีย์ 3. วัดจำกปริมำณ acetylene ทีถ่ ูก reduce Ammonia trapping * NH3 ทีเ่ กิดจำกกำรตรึง N2 จะระเหยออกจำกเซลล์ ่ ได้ หากไม่ทาปฏิก ิรย ิ าก ับสารอืน * แอมโมเนียและแอมโมเนียมสำมำรถ เปลีย่ นกลับไป มาได้ง่าย จึงเรียกรวมก ันว่า Ammonia nitrogen NH3 + H2O NH4+ + OH- * ในธรรมชำติ Ammonium nitrogen เกิดได้ หลำยทำง เช่นจากการ reduced nitrate, กำรสลำยตัวของ กำรวัดอัตรำกำรตรึงไนโตรเจนจำกกำร เจริญเติบโต ของจุลนิ ทรีย์ทสี่ ำมำรถตรึงไนโตรเจนได้ method) ในอำหำร * กำรเลีย้ งจุ(growth ลนิ ทรีย์ทสี่ estimation ำมำรถตรึงไนโตรเจนได้ ้ ้ ปราศจากธาตุไนโตรเจน ่ เลียงเชื อที และวัดปริมำณจุลนิ ทรีย์ ่ มขึ ่ นในเวลาที ้ ่ าหนด ทีเพิ ก * วัดนำ้ หนักแห้ งหรื อวัด optical density ทีเ่ ปลีย่ นแปลง กำรนำแอมโมเนีย (NH3) ไปสร้ ำงสำรประกอบอินทรีย์ (Assimilation of Ammonia) * แอมโมเนีย (NH3) หรื อแอมโมเนียมอิออน (NH4+) จะไม่ มี การสะสมในเซลล ์พืชเพราะเป็ น สำรพิษต่ อกระบวนกำร เมแทบอลิซม ึ * แอมโมเนียจะถูกนำไปสร้ ำงเป็ นสำรประกอบอินทรีย์ พวก กรดอะมิโน และ amide เพื่อนำไปใช้ ในกำร สั งเครำะห์ โปรตีน ่ เรียก และสารประกอบไนโตรเจนอืนๆ ปฏิกริ ิยำที่เปลีย่ นแอมโมเนียเป็ นสำรอินทรีย์ ประกอบด้ วย 3 ปฏิกริ ิยำ ดังนี้ 1. ปฏิกริ ิยำทีถ่ ูก catalyst โดยเอนไซม์ glutamine systhethase (GS) ดังสมกำร glutamine glutamate + NH3 + ATP glutamine + ADP + Pi Synthetase (GS) 2. ปฏิกริ ิยำทีถ่ ูก catalyst โดยเอนไซม์ glutamate synthase (GOGAT) ดังสมกำร glutamine+a -ketoglutarate + 2NADH GOGAT 2glutamate+2NAD+ สำหรับปฏิกริ ิยำที1 ่ และ 2 อำจเขียนรวมได้ ดังนี้ Glutamine a Ketogutaric acid Glutamic acid Glutamic acid NH3 3. ปฏิกริ ิยำทีถ่ ูก catalyst โดยเอนไซม์ glutamic acid dehydrogenase (GDH) และมี NADH+H+ เป็ นตัวให้ ไฮโดรเจน HOOC-CH2-CH2CO-COOH + NH3 (a -ketoglutaric acid) NADH+H+ GDH HOOC-CH2-CH2(NH2)-COOH glutamic acid + NAD + H2O Glutamine synthetase (GS) GS จะคะตะไลซ์ glutamate ไปเป็ น glutamine โดยใช้ ATP GS ในพืชชั้นสู งจะมีลกั ษณะเป็ น octameric protein มี MW 350-400 kDa GS มีมำกในรำกพืชทีม่ ีกำรตรึงไนโตรเจน เช่ นในถัว่ (Phaseolus vulgaris) Glutamic acid dehydrogenase (GDH) GDH ถูกสร้ ำงในสำรละลำยทีม่ ี ammonia-nitrogen ต่ำมำก GS (Glutamine synthetase ช่ วยให้ ammonia-nitrogen ทำ ปฏิกริ ิยำกับ glutamic ได้ ดีกว่ ำ ถ้า GS อยู่ในเซลล์ของใบจะอยู่ภำยในคลอโรพลำสต์ แต่ ถ้ำอยู่ ้ อที ่ ไม่ ่ มส ในเนื อเยื ี เี ขียวจะอยู ่ภายในไซโตพลา ซึม GS มีควำมว่ องไวในกำรจับตัวกับแอมโมเนียสู ง เป็ นเอนไซม์ ที่มีขนำดใหญ่ MW 350-400 kDal ประกอบด้ วย polypeptide หน่ วยย่ อย 8 หน่ วย Enzyme nitrogenase กำรศึกษำกระบวนกำรตรึง N2 เริ่มในช่ วงปี 1930 โดย Mc coy Wilson และ Burris แห่ ง มหำวิทยำลัย W i s c o n s i n enzyme nitrogenase เป็ น enzyme ทีใ่ ช้ ตรึง N 2 กลุ่มแรกทีแ่ ยกได้ สำเร็จในหลอดทดลองในปี ค.ศ. 1959 คือ Caronahan, Mortensen และ V a l e n t i n e โดยสกัดจำก C l o s t r i d i u m p a s t e u r i a n u m กำรที่ไม่ สำมำรถแยก nitrogenase ได้ อำจเนื่องจำก 1. Enzyme nitrogenase จะถูก inactivate โดย อุณหภูมิตำ่ (cold labile) ปกติในกำรแยก enzyme มักทำที่ low temp . 2. Nitrogenase จะถูก inactivate โดย O2 ถึงแม้ O2 จะมีในปริมำณที่ต่ำๆ ก็ตำม ดังนั้นกำรแยก enzyme นีต้ ้ องทำในสภำพที่ ไม่ มี O 2 ( a n a e r o b i c c o n d i t i o n ) 3. กำรทำงำนของ nitrogenase ต้ องกำร ATP ด้ วย 4. ในกำร reduced N2 ไปเป็ น NH3 ต้ องอำศัย s t r o n g r e d u c i n g a g e n t ต่ อมำพบว่ ำ ferredoxin เป็ น reducing agent ในกระบวนกำรตรึง N สิ่ งที่จำเป็ นต้ องกำรตรึง N2 ในหลอดทดลอง ประกอบด้ วย 1. Gas N2 (molecular nitrogen) 2.ต้ องมีสำรทีเ่ ป็ นตัว reduced กำลังสู งคือ ferredoxin 3.ATP หรื อ หรื อสำรที่ให้ ATP 4. Non heme iron protein (NHI) ซึ่งมี Mo เป็ นองค์ ประกอบ และ NHI อีกชนิดซึ่งไม่ มี Mo เป็ น 1966 Evans และคณะทดลองสกัด enzyme nitrogenase จำกปมถั่วเหลือง ทำกำรทดลองที่ Oregen USA ประสบควำมสำเร็จเนื่องจำกเทคนิค 3 ประกำรคือ 1. ไม่ ให้ O2 เข้ ำมำเกีย่ วข้ องกับกำรทดลอง 2. ป้องกับ phenol oxidase ไม่ ให้ มีในระบบเพรำะจะยับยั้ง การตรึง N2 3. ใช้ gas liguid chromatog eraphy เป็ นเครื่ องมือในกำร ทดสอบ ใช้ระบบ reduced gas acetylene ให้ เป็ น gas ethylene ่ โครงสร ้างและหน้าทีของ enzyme Nitrogenase (Structure and function of nitrogenase enzyme) แบ่ ง nitrogenase เป็ นชนิดต่ ำงๆ คือ 1. Fe-Mo-protein (iron molybdenum protein) อำจเรียกว่ ำ Azofermo เป็ น protein ทีไ่ วต่ อควำม เย็น (cold labile) เดิมเรียก molybdoferredoxin มี MW ระหว่ ำง 100,000-200,000 เป็ น protein ทีม่ ี subunit ย่ อย คือ a2 b2 ประกอบด้ วย Fe และ Mo บำงทีเรียกว่ ำ component 1 ทำหน้ ำที่ reduce N2 ได้ เป็ น NH3 2. Fe-S protein (iron-sulfur protein) เรียก Azofer เดิมเรียก Azoferredoxin เป็ น protein ที่ sensitive ต่ อ O2 มี MW-50,000 - 80,000 ประกอบด้ วย 2 subunit ทีเ่ หมือนกันเรียก component 2 บำงระบบแบ่ ง enzyme nitrogenase เป็ น 3 ชนิด คือ 1. Enzyme nitrogenase ทีป่ ระกอบด้ วย molybdenum และ Fe (Mo-nitrogenase) 2. Enzyme nitrogenase ทีป่ ระกอบด้ วย vanadium และ Fe (V-nitrogenase) Molybdenum nitrogenase Carnahan et al (1960) สกัด molybdenum nitrogense จำก Clostridium pasteurianum ทำให้ inactive โดย O2 และควำมเย็น molybdenum nitrogenase ประกอบด้ วย protein 2 ชนิด 1. Molybdenum iron protein หรื อ เรียกว่ ำ protein 1 หรื อ dinitrogenase 2. Iron protein หรื อเรียกว่ ำ protein 2 หรื อ dinitrogenase reductase Mo-Fe protein ประกอบด้วย a b tetramer มี MW 220 KDa โดย a -subunit มี MW 50 KDa และ b - subunit มี MW 60 KDa Molecule ของ molybdenum nitrogenase ประกอบด้วย molybdenum, Fe, S ในอัตราส่ วน 2 Mo : 24-32 Fe : 24-30 S ต่อโมเลกุล Fe protein nitrogenase ion g2 dimer มี MW 5772 KDa ประกอบด้วย Fe4S4 2 2 สรุปคุณสมบัตขิ อง enzyme nitrogenase 1. ประกอบด้ วย protein 2 ชนิดคือ molybdenum iron protein กับ iron protein 2. ถูกทำลำยโดย O2 ได้ ง่ำย 3. จะมี Fe และ Mo เป็ นส่ วนประกอบของ molecule 4. ต้ องกำร Mg ion ในกำรทำงำน 5. ในขณะที่ทำงำนจะเปลีย่ น ATP ไปเป็ น ADP 6. ถูกยับยั้งกำรทำงำน โดย ADP ่ หน้าทีของ enzyme nitrogenase คือ reduced N2 ให้ เป็ น NH3 enzyme nitrogenase สำมำรถ reduced สำรประกอบที่มี triple bond ได้ เกือบทุกชนิด Eg nitrogen N acetylene HC hydrogencyanide HC H N N กลไกที่ใช้ ในกำรป้องกัน ezyme nitrogenase ไม่ ให้ สั มผัสกับ O2 อิสระ (Protective mechanism for nitrogenase) enzyme nitrogenase จะถูก Oxidise ได้ ง่ำย สำหรับพืชตระกูลถัว่ จะมีกลไกป้องกันไม่ ได้ enzyme nitrogenase ถูก oxidise โดยจะมีสำร leghaemoglobin ในปมรำก Leghaemoglobin จะมี cu เป็ นองค์ ประกอบทำ ให้ มี สี ชมพู Leghaemoglobin ทำหน้ ำที่นำ O2 ทีอ่ ยู่ใน intercellular space ออกไปห่ ำงจำกที่มีกำรตรึง N2 ่ ม ี leghaemoglobin ในปมรากทีไม่ จะไม่ สำมำรถ สำหร่ ำยทีต่ รึง N2 ได้ มักจะมีผนัง cell หนำ ซึ่งเป็ นโครงสร้ ำงทีป่ ้ องกันกำรซึมผ่ ำน ของ O2 เข้ ำไปใน cell ได้ เป็ นอย่ ำงดี สรุปกลไกกำรป้องกันไม่ ให้ enzyme nitrogenase ถูก inactivate โดย free O2 คือ 1. มี leghaemoglobin เพื่อจับ O2 ไว้ 2. มีอตั รำกำรหำยใจสู ง ทำให้ เกิดสภำพ anaerobic condition 3. สร้ ำง heterocyst ซึ่ง cell ของ heterocyst จะมีผนัง หนำ 4. สร้ ำงเมือก enzyme nitrogenase จะถูก Oxidise ได้ ง่ำย สำหรับพืชตระกูลถัว่ จะมีกลไกป้องกันไม่ได้ enzyme nitrogenase ถูก oxidise โดยจะมีสำร leghaemoglobin ในปมรำก บทบำทของ Leghaemoglobin ในกำรตรึง N2 leghaemoglobin ทีอ่ ยู่ทปี่ มรำกของพืช ตระกูลถัว่ จะทำหน้ ำทีจ่ ับ O2 เพื่อให้ มี free O2 ใน ปมน้ อยทีส่ ุ ด ในปมรำกของพืชตระกูลถัว่ จะมีอตั รำกำร หำยใจสู งเพื่อใช้ O2 และเพื่อให้ ได้ พลังงำนเพื่อ นำไปใช้ ในกำรตรึง N2 ขั้นตอนกำรตรึง N2 (nitrogen fixing reaction) ปฏิกริ ิยำกำรตรึง N2 แบ่ งเป็ น 3 ขั้นตอน 1. ไนโตรเจนถูก reduced เป็ น diimide (HN = NH) 2. Diimide ถูก reduced เป็ น hydrazine (H2N-NH2) 3. Hydrazine ถูก reduced เป็ น NH3 ปฏิกริ ิยำแต่ ละขั้นตอนมี e-, H-, ATP และ enzyme nitrogenase เข้ ำทำปฏิบัติด้วยสำร diimide และ hydrazine เป็ น intermediate N=N reduced ferredoxin 2e- ATP nitrogenase HN-NH (diimide) 2enitrogenase H2N-NH2 (hydraine) 2enitrogenase 2NH3 Intermediate คือ diimide และ hydrazine จะติดแน่ นกับ enzyme และไม่ สำมำรถพบในรู ป อิสระ เป็ นข้ อดี เพรำะ diimide และ hydrazine จะเป็ นพิษ ต่ อเซลล์ พืช หำกอยู่ในรู ปอิสระ nitrogenase เป็ น enzyme ทีไ่ ม่ เจำะจงกับ substrate มำกนัก สำมำรถ reduced สำรอื่นได้ เช่ น acetylene, CO, CN, และ N2O ดังนั้นสำรเหล่ ำนีถ้ ือเป็ น competitive inhibitor ของกำร reduced N2 สรุปสมกำรกำรตรึง N2 ทีถ่ ูก catalyst โดย nitrogenase N2+8e-+8H++16ATP 2NH3+H2+16ADP+16Pi Ammonia trapping NH3 ทีเ่ กิดจำกปฏิกริ ิยำกำรตรึง N2 จะระเหยออก จำก cell ได้ หำกไม่ ทำปฏิกริ ิยำกับสำรอื่น ดังนั้นเซลล์ จะ มีกำรนำผลผลิตจำกกำรตรึงไนโตรเจนไปสร้ ำง สำรประกอบอินทรีย์ ปกติ NH3 และ NH4+ สำมำรถเปลีย่ นกลับไปมำได้ ง่ ำย จึงเรียกรวมกันว่ ำ ammonia nitrogen ดังสมกำร NH3+H2O N H + 4 + O H - กำรนำผลผลิตกำรตรึงไนโตรเจน (NH3) ไปสร้ ำง สำรประกอบอินทรีย์ (Assimilation of Ammonia) NH3 ที่ได้ จำกกำรตรึง N2 ของแบคทีเรียและ cyanobacteria จะไม่ มีกำรสะสมในเซลล์ พืช เพรำะ เป็ นสำรพิษต่ อกระบวนกำร m e t a b o l i s m NH3 จะถูกนำไปสร้ ำงสำรประกอบอินทรีย์ พวก amino acid และ amide เพื่อนำไปสั งเครำะห์ โปรตีนและสำรประกอบไนโตรเจนอื่นๆ เรียกปฏิกริ ิยำนีว้ ่ ำ assimilation of ammonia หรื อ ammonia assimilation ไนโตรเจนทีจ่ ะเข้ ำสู่ โมเลกุลของสำรอินทรีย์ได้ ต้ องถูกเปลีย่ นเป็ น NH3 ก่ อน ปฏิกริ ิยำที่จะเปลีย่ น NH3 ให้ เป็ นสำรอินทรีย์มี 3 ปฏิกริ ิยำคือ 1. ปฏิกริ ิยำทีถ่ ูก catalyst โดย enzyme glutamine synthethase (GS) ในเซลล์ พืชเกือบทุกชนิดจะเก็บสะสม N2 ไว้ ในสำร glutamine เนื่องจำก cell พืชมี enzyme glutamine synthetase (Miflin and Lea, 1987) Glutamine glutamate+NH3+ATP synthetase ADP+Pi (GS) glutamine + 2. ปฏิกริ ิยำทีถ่ ูก catalyst โดย enzyme glutamate synthase (GOGAT) หรื อ glutamine : 2-oxoglutarate amino transferase glutamine+ a -ketoglutarate + 2 NADH glutamate (GOGAT) synthase 2 glutamate + 2 NAD+ ปฏิกริ ิยำ 1 และ 2 อำจเขียนรวมได้ ดงั นี้ Glutamine NH3 GS Glutamic acid a -ketoglutaric acid (oxoglutarate) GOGAT Glutamic acid 3. ปฏิกริ ิยำทีถ่ ูก catalyst โดย enzyme glutamic caid dehydrogenase (GDH) และมี NADH+H+ หรื อ NAD(P)H เป็ นตัวให้ H+ a -ketoglutaric acid G,H NADH+H+ glutamic acid+NAD+H2O สรุป enzyme ทีเ่ กีย่ วข้ องกับกำร เปลีย่ น NH3 ให้ เป็ นสำรอินทรีย์คือ enzyme glutamine synthase (GS) glutamic acid dehydrogenase (GDH) และ glutamate synthase (GOGAT) Glutamine synthetase (GS) GS จะ catalyst glutamate ไปเป็ น glutamine โดยใช้ ATP ดังสมกำร ATP glutamate + NH3 glutamine Mg+2 + ADP+Pi Enzyme GS มีขนำดใหญ่ มี MW 350-400 KDa ประกอบด้ วย polypeptide 8 หน่ วยย่ อย Glutamate synthase (GOGAT) GOGAT หรื อเรียกว่ ำ glutamineoxoglutarate amino transferase GOGAT มีอยู่ 2 form คือ 1. ชนิดทีใ่ ช้ ferredoxin เป็ นตัวให้ e- (ferredoxindependent glutamate synthase) พบใน chloroplast เป็ น protein ชนิด iron-sulfur favoprotein เป็ น polypeptide มี MW ประมำณ 140-160 KDa 2. ชนิดที่ใช้ NADH เป็ นตัวให้ e- (NADHdependent glutamate synthase) พบใน plastid ของ cell รำก บำงตำรำกล่ ำวว่ ำ GOGAT มีอยู่ 3 form คือ 1. Photosynthetic form เป็ นชนิดที่ใช้ ferredoxin เป็ นตัวให้ e (ferredoxin-dependent glutamate synthase) พบใน chloroplast 2. อีก 2 form เป็ น non-photosynthetic form ใช้ NADH หรื อ NADPH เป็ นตัวให้ e NADHdependent glutamate synthase พบใน plastid ของรำก (Oaks and Hirel, 1981) สำหรับ enzyme ที่เปลีย่ น amino acid glutamate ไปเป็ น amino acid ชนิดอื่นๆ คือ enzyme amino transferase Amino transferase รู้จักกันในชื่ อของ transaminase จะเป็ นตัว catalyst และ transfer amino group จำก ตำแหน่ งที่ 2 ของ amino acid ไปเป็ น 2 oxo acid ให้ amino acid และ oxo acid ตัวใหม่ ปฏิกริ ิยำทีม่ ีกำรเพิม่ หมู่ amino ให้ กบั สำรอินทรีย์ ชนิดอื่น เรียก transamination และมี enzyme aminotransferase เป็ นตัวเร่ งปฏิกริ ิยำ glutamate จะถูกเปลีย่ นเป็ น amino acid ชนิดอื่นๆอีก 19 ชนิด โดยมีกำรย้ ำยหมู่ amino จำก glutamic โดย transamination ให้ แก่ a - keto acid Amino acid 1 a ketoacid1 +a keto acid2 + amino acid2 R1 NH2 C COOH + R2 C O COOH H amino acid1 O R1 C COOH a -keto acid1 a -keto acid2 + N N H2 R2 COOH H a m i n o a c i d2 Glutamate เป็ น major amino donor aminotransferase enzyme สำมำรถ catalyst ให้ เป็ น protein amino acid ทุกชนิด ยกเว้ น proline ตัวอย่ ำงนำ้ หนักโมเลกุลของ aspartate amino transferases จะมีค่ำระหว่ ำง 95-110 KDa ประกอบด้ วย 2 subunits แสดง ปฏิกริ ิยำที่มี aspartate aminotransferase เป็ นตัว catalyst ในกำรสร้ ำง amino acid Glutamate + oxaloacetate aspartate aminotransferase 2-oxoglutarate + Aspartate glutamate + pyruvate alanine aminotransferase 2-oxoglutarate + alanine ตัวอย่ ำงปฏิกริยำกำรสร้ ำง aspartate โดย enzyme aspartate aminotransferase glutamate + oxaloacetate (OAA) aspartate aminotransferase a - ketoglutarate + aspartate หลังจำกนั้น aspartic acid ทำปฏิกริ ิยำกับ NH3 ได้ รับพลังงำนจำก ATP และมี enzyme asparagine synthetase ได้ asparagine ดัง สมกำร ATP aspartic acid + NH3 asparagine ตัวอย่ ำงกำรสร้ ำง amino acid alaine glutamate + pyruvate alanine aminotransferase a - ketoglutarate + alanine Glutamate เป็ นสำรตั้งต้ นของ amino acid หลำยชนิด เช่ น aspartate alanine arginine proline glutamine เป็ นต้ น Aspartate เป็ นสำรตั้งต้ น amino acid 5 ชนิด คือ asparagine lysine threonine methionine และ isoleucine Pyruvate เป็ นสำรตั้งต้ นกำรสร้ ำง alanine Serine Cysteine Glycine ใน cell พืช กำรสร้ ำง arginine นอกจำกจะเริ่มต้ นจำก glutamate ยังอำจเริ่มต้ นจำก amonia ทำปฏิกริ ิยำกับ CO2 ได้ Carbamyl phosphate ซึ่งถ้ ำทำปฏิกริ ิยำกับ ornithine จะได้ arginine กับ citrulline NH4+ + CO2 H2N-CO-OPO3H2 carbamyl phosphate ornithine arginine + citrulline กำรขนส่ งสำรประกอบไนโตรเจนออกจำกปมรำก พืชตระกูลถัว่ ถัว่ ทีอ่ ยู่ในเขตอบอุ่นเช่ น ถัว่ ลันเตำ และ clover จะขนส่ งสำรประกอบ N2 ออกจำกปมรำก เพื่อไปเลีย้ งส่ วนอื่นๆ ของพืชในรูปของ asparagine ดังนั้นพืชพวกนี้ glutamate จะถูกเปลีย่ นไป เป็ น asparagine ตำมขึน้ ตอนต่ อไปนี้ glutamate + oxaloacetate (OAA) aspartate aminotransferase a -ketoglutarate + aspartate ต่ อมำ aspartate ทำปฏิกริ ิยำกับ glutamine ได้ asparagine ดังสมกำร glutamate + aspartate ATP asparagine synthetase glutamate + asparagine + ADP+Pi ถัว่ ทีเ่ จริญในเขตร้ อน เช่ น ถัว่ เหลือง ถัว่ พุ่ม จะขนส่ ง สำรประกอบไนโตรเจนออกจำกปมรำกในรู ปของสำร ureides ซึ่งเป็ นอนุพนั ธุ์ของ Urea เช่ น allantoin, allantoic acid และ citrulline NH3 ซึ่งเป็ นผลผลิตจำกกำรตรึง N2 โดย enzyme nitrogenaseใน rhizobium จะเคลื่อนทีผ่ ่ ำน plasma membrane ของ Rhizobium และผ่ ำน peribacteroid membrane ออกสู่ cytoplasm ของ cell เจ้ ำบ้ ำน ซึ่งจะมี enzyme GS และ GOGAT และ NH3 จะนำไปสร้ ำงเป็ น glutamate ต่ อมำ glutamate จะเปลีย่ นไปเป็ น glutamine และจะเปลีย่ นต่ อไปเป็ น purine ซึ่ง จะถูก oxidise ไปเป็ น uric acid Uric acid จะเคลื่อนที่จำก infected cell เข้ ำสู่ ปมรำกทีไ่ ม่ มี rhizobium (uninfected cell) แล้ วเปลีย่ นไปเป็ น allantoin โดยกิจกรรมของ enzyme ภำยใน microbody allantoin จะเปลีย่ นไปเป็ น allantoic ภำยใน endoplasmic reticulum และ ขนส่ ง allantoic acid ไปตำมท่ อ xylem ไปให้ ส่ วนต่ ำงๆ ของพืชต่ อไป ถึงแม้ ว่ำวิถีกำรสั งเครำะห์ ureides เช่ น allantoic acid หรื อ allantoin จะยุ่งยำกกว่ ำกำรสั งเครำะห์ asparagine แต่ ureides เป็ นสำรประกอบที่ เหมำะสมในกำรขนส่ งไนโตรเจนในแง่ ประหยัด C มำกกว่ ำ เพรำะแต่ ละโมเลกุลของ allantoic acid หรื อallantoin มี C 4 atom และขนส่ ง N2 ได้ 4 atom ส่ วน asparagine 1 Molecule มี C atom ขนส่ งไนโตรเจนได้ เพียง 2 atom เท่ ำนั้น กระบวนกำร Nitrification เป็ นกระบวนกำร oxidise NH3 ให้ เป็ น NO3โดย nitrifying bacteria มีข้นั ตอนเกิดขึน้ 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 nitrifying bacteria จะ oxidise NH3 ให้ เป็ น NO2- (nitrite) ตัวอย่ ำง bacteria คือ nitrosomonase ในขั้นตอน ที่ 1 ได้ ATP ++ NH4 3/2 O2 -+2H++H NO2 2O +ATP (66 kcal) ปฏิกริ ิยำของกระบวนกำร nitrification ขั้นตอนที่ 1 เป็ นกำรเปลีย่ น NH3 ให้ เป็ น NO2- เป็ นปฏิกริ ิยำ กำรปลดปล่ อยพลังงำน bacteria พวก nitrifying bacteria เป็ นสิ่ งมีชีวติ ที่สร้ ำงอำหำรได้ เองจำก CO2 โดยใช้ พลังงำนจำกปฏิกริ ิยำเคมีเรียก สิ่ งมีชีวติ พวกนี้ ว่ ำ Chemosynthetic autotroph หรื อ chemo autotrophic microorganism ขั้นตอนที่ 2 bacteria Nitrobacter oxidise nitrite ให้ เป็ น nitrate ได้ พลังงำนสร้ ำง ATP Nitrobacter มี 2 specics คือ Nitrobacter Winogradskyi และ N. agilis สมกำร oxidise nitrite ได้ เป็ น nitrate คือ NO2 +1/2 O2 NO3 +ATP (energy=18 Kca) nitrification ที่เกิดขึน้ ต้ องใช้ O2 ดังนั้นในดินหรื อ ในน้ำต้ องมี O2 ในปริมำณที่มำกพอที่ bact จะ เจริญเติบโตได้ Nitrification จะเกิดได้ ดใี นบริเวณผิวดิน หรื อผิวนำ้ เท่ ำนั้น เนื่องจำกต้ องกำร O2 ถ้ ำในดินหรื อนำ้ ที่ลกึ ลงไปมี O2 น้ อย nitrification จะเกิดได้ น้อย มักพบ bact พวก nitrifying bacteria ในดิน ทั่วไปแต่ พบมำกในดินที่มี pH ตั้งแต่ 6 ขึน้ ไป ดินที่มี Nitrosomonase อำศัยอยู่มักพบ bact พวก Nitrobacter เสมอ ถ้ ำในดินที่มี bacteria กลุ่มนีน้ ้ อยแล้วเติม ammonia ลงไป ทำให้ bacteria เพิม่ ปริมำณอย่ ำง รวดเร็ว ในดินที่มี pH ต่ำกว่ ำ 6 หรื อดินที่เป็ นกรด จะมี bact กลุ่มนีใ้ นปริมำณตำ่ หรื อไม่ มเี ลย แต่ ถ้ำในทีม่ ีควำมเป็ นด่ ำงสู งเกินไปเช่ น pH 9.5 และมีปริมำณแอมโมเนียสู ง Nitrobacter จะ ไม่ สำมำรถเจริญได้ ทำให้ มีกำรสะสมของ nitrite ซึ่งเป็ นพิษต่ อพืชและจุลนิ ทรีย์ซึ่งจะเป็ น ผลกระทบต่ อกำรเกษตร ในดินที่มี pH ต่ำกว่ ำ 6 หรื อดินที่เป็ นกรด จะมี bact กลุ่มนีใ้ นปริมำณตำ่ หรื อไม่ มเี ลย แต่ ถ้ำในทีม่ ีควำมเป็ นด่ ำงสู งเกินไปเช่ น pH 9.5 และมีปริมำณแอมโมเนียสู ง Nitrobacter จะ ไม่ สำมำรถเจริญได้ ทำให้ มีกำรสะสมของ nitrite ซึ่งเป็ นพิษต่ อพืชและจลินทรีย์ ซึ่งจะเป็ น ผลกระทบต่ อกำรเกษตร ในกำรเปลีย่ นแอมโมเนียให้ เป็ น nitrite นั้น จะมีกำร intermediate คือ hydroxylamine และ hyponitrite ดังสมกำร 1/2O2 NH3 HO-NH2 1/2HO-N=N-OH Hydroxylamine hyponitrite 1/2 O2 HO-N=O nitrite หลังจำกนั้น nitrite จะถูกเปลีย่ นเป็ น nitrate โดย Nitrobacter H2O HO-N=O nitrite OH HO-N OH -2H HO-N nitrate O O Glutamate synthase (GOGAT) (2-glutamine-oxoglutarate amino transferase) * ถ้ ำอยู่ในเซลล์ ใบจะอยู่ภำยในคลอโรพลำสต์ * ถ้ ำอยู่ในเนื้อเยื่อทีไ่ ม่ มีสีเขียวจะอยู่ภำยในพลำ สติด * มี 3 form (isoenzyme) (ในพืชมี 2 ชนิดที่ - ชนิดที่ใใช้ ช้ ferredoxin เป็ นตัวให้ อเิ ลคตรอน ferredoxine เป็glutamate นตัวให้ e-)synthase) พบ (ferredoxin-dependent ใน chloroplast เป็ นโปรตีนชนิด iron-sulfur favoprotein MW ~ 140-160 KDa - อีก 2 form เป็ น non photosynthetic form ใช้ NADH หรื อ NADPH เป็ นตัวให้ e- (NADH-dependent glutamate synthase) พบในพลำสติดของรำก * Glutamate และ glutamine ทีไ่ ด้ จำกกิจกรรมของ GS/GOGAT ดังสมกำร Glutamate + NH3 + ATP GS Glutamine+a-ketoglutarate+2NADH Glutamine + ADP + Pi GOGAT 2Glutamate+2NAD+ * Glutamate เป็ นต้ นตอ ในกำรสั งเครำะห์ amino aicd ชนิดต่ ำงๆ Glutamine - Tryptpphan - Arginine - Histidine - Ureides - Asparagine Glutamate - Proline - Arginine * เอนไซม์ ที่เกีย่ วข้ องกับกำรเปลีย่ น amino acid glutamate ไปเป็ น amino acid ชนิดอื่นๆ คือ เอนไซม์ amino transferase Amino transferase หรื อ transaminase * มีกำร catalyse และ transfer ของ amino group จำกตำแหน่ งที่ 2 ของ amino acid ไปเป็ น 2 oxo acid ได้ amino acid ตัวใหม่ และ oxo acid ตัวใหม่ * glutamate เป็ น major amino donor เกิดปฏิกริ ิยำสำคัญ 2 ปฏิกริ ิยำ * ทั้ง 2 ปฏิกริ ิยำให้ 2-oxoglutarate (เข้ ำ glutamate synthase cycle) * aminotransferase ในพืชสำมำรถสั งเครำะห์ เป็ น protein amino acid ทุกชนิด (ยกเว้ น proline) * ดังนั้น N2 สำมำรถ distributed จำก glutamate เพื่อนำไปสร้ ำง amino acid ทุกชนิด แสดงปฏิกริ ิยำ aspartate aminotransferase และ alanine aminotransferase Transamination ่ การเพิมหมู ่ เป็ นปฏิก ิรย ิ าทีมี ่อมิโน (amino ่ โดยมีเอนไซ ให้ก ับสารอินทรีย ์ชนิ ดอืน เป็ นตัวเร่ งปฏิกริ ิยำ glutamate จะถูกเปลีย่ นเป็ นกรดอมิโน ชนิดอื่น 19 ชนิด ่ าเป็ นสาหร ับการสร ้างโปรตีน ทีจ O NH2 R - C - COOH + R2 - C - COOH H amino acid1 a- keto acid2 O R1 - C - COOH a - keto acid1 + NH2 R2 - C - COOH H amino acid2 แสดงปฏิกริ ิยำ transamination Glutamate + oxaloacetate (OAA) Aspartate aminotransferase α- ketoglutarate + arpartate HOOC - CH2 - CH(NH2) - COOH (aspartic acid) + NH3 + ATP - ADP -P HOOC - CH2 - CH2CH(NH2) - CO(NH2) asparagine glutamate + pyruvate Alanine aminotransferase α- ketoglutarate + alanine NH4+ + CO2 + ATP - ADP - H+ H2N - CO - OPO3H2 Carbamyl phosphate + ornithine - citrulline HOOC - CH(NH2) - CH2 - CH2 - CH2 -NH C(NH2) - NH2 arginine กำรขนส่ งสำรประกอบไนโตรเจนออกจำกปมรำกพืชตระกูล * ถั่วทีเ่ จริญอยู่ในเขตอบอุ่น เช่ น ถั่วลันเตำ และ clover จะมีกำรขนส่ งสำรประกอบไนโตรเจนออกจำกปม รำก นอื่นๆ ในรูจะถู ปของ asparagine * ไปยั ดังนัง้ นส่ วglutamate กเปลี ย่ นเป็ น asparagine ้ ในขันตอน ต่อไปนี ้ ขั้นตอนกำรเปลีย่ น glutamate เป็ น Asparagine * ถัว่ ทีเ่ จริญในเขตร้ อน เช่ นถัว่ เหลือง ถัว่ พุ่ม จะมีกำรขน ส่งสารประกอบไนโตรเจนในรู ปสาร ureides (อนุพนั ธ์ ของยูเรีย เช่ น allantoin, allantoic acid และ citrulline) * ใน Rhizobium ทีอ่ ยู่ในปมรำกถัว่ ไม่ มี GS และ GOGAT * นักวิทยำศำสตร์ เชื่ อว่ำ แม้ ว่ำวิถีกำรสั งเครำะห์ ureides จะยุ่งยำกกว่ ำกำรสั งเครำะห์ asparagine แต่ ureides เป็ นสำรประกอบทีเ่ หมำะสมสำหรับกำรขนส่ ง N2 ในแง่ ทปี่ ระหยัด C มำกกว่ำ กระบวนกำร Nitrification * เป็ นกระบวนกำร oxidise ammonia (NH3) ให้ เป็ น NO3- โดย nitrifying bacteria (เช่ น Nitrosomonas) มีข้นั ตอนเกิดขึน้ 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 NH4+ + 3/2 O2 NO2- + 2H+ + H2O + ATP (energy, 66 Kcal) * nitrifying bacteria จะ oxidise NH3 ไปเป็ น NO2- (nitrite) * ได้พลังงานมาสร้าง ATP * นาพลังงานนี้ไปใช้ reduced CO2 เป็ นน้ าตาล แทนที่จะใช้ พลังงำนแสง * bact. พวกนี้สร้างอาหารได้เองจาก CO2 เป็ น “Chemosynthetic autotroph หรื อ Chemoautotrophic microorganism” ขั้นตอนที่ 2 * แบคทีเรีย Nitrobacter จะ oxidise nitrite ให้ เป็ น nitrate * ได้ พลังงำนพอที่จะสร้ ำง ATP * Nitrobacter มี 2 ชนิด คือ N. winogradskyi และ N. agilis NO2- + 1/2O2 NO3- + ATP (energy = 18 Kcal) * nitrification จะต้ องใช้ O2 ในปริมำณมำกพอที่ bact. จะเจริญได้ * bact. จะ oxidize ammonia-nitrogen ให้ เป็ น nitrate ดังนั้น nitrification จะเกิดขึน้ ได้ ดีในบริเวณผิวดิน หรื อผิวนำ้ เท่ ำนั้น * ถ้ ำดินมีควำมเป็ นด่ ำงสู งเกินไป และมี ammonia สู ง จะมีกำรสะสม ไนไตรท ์ ส่งผลเสียต่อการเกษตร เพราะ ไน ไตรท์ เป็ นพิษต่ อพืชและ จุลน ิ ทรีย ์ * ในกระบวนกำรเปลีย่ นแอมโมเนียเป็ นไนไตรท์ คำดว่ ำมีสำรที่ เป็ น intermediate คือ hydroxylamine และ hyponitrite ดัง -2H NH3 1/2 O2 HO-NH2 1/2HO-N=N-OH 1/2 O2 HO-N=O สมกำร Hydroxylamine hyponitrite nitrite * สำรพวก hyponitrite เป็ นสำรที่ไม่ stable H2O HO-N=O HO-N OH -2H O HO-N OH nitrite O nitrate Nitrate Reduction กำรนำไนเตรทไปสร้ ำงเป็ นสำรประกอบอินทรีย์ (nitrate assimilation) * กำรดูดไนเตรทในเซลล์ รำกเป็ นกระบวนกำรขนส่ งแบบ active ที่ ต้องใช้พลังงานและต้องมีสารตัวพา (carrier) ที่จำเพำะเจำะจง * สำมำรถเพิม่ ปริมำณ carrier protein( ที่จะพำ NO3- )ในรำกพืชที่ ยัง ไม่ เคยได้ รับ NO3- ได้ โดยกำรให้ ป๋ ุย NO3* NO3- ที่เข้ ำสู่ รำกอำจจะถูกขนส่ งสู่ ลำต้ นทำง xylem * พืชไม่ สำมำรถนำ NO3- ไปใช้ ได้ โดยตรง ต้ อง reduced เป็ น NH4+ ก่ อน โดยกระบวนกำร nitrate reduction * พืชบำงชนิดอำจ reduced NO - ที่รำกหรื อใบ แต่ ส่วนมำกเกิดขึน้ * กำร reduced NO3- ให้ เป็ น NH3 จะต้ องใช้ อเิ ลคตรอน 8 อนุภำค/1 โมเลกุ ล ของ NO * กำร reduction ของ NO -3 ประกอบด้ วยปฏิกริ ิยำ 2 ขั้นตอน คือ 3 ขั้นตอนที่ 1 # คือกำร reduced nitrate (NO3-) เป็ น nitrite (NO2-) โดยกิจกรรม ของเอนไซม ์ nitrate reductase (NR) NO3- + 2H+ + 2e- NO2- + H2O # NR เป็ นเอนไซม์ ทอี่ ยู่ใน cytoplasm ของรำกหรื อใบ และมีสำร ่ e- และโปรตอนที่มำจำกปฏิกริ ิยำกำรสั งเครำะห์ แสงและกำร ทีให้ หายใจ ขั้นตอนที่ 2 - NO2- จะเคลื่อนที่เข้ ำสู่ พลำสติดแล้ วถูก reduced ให้ เป็ น NH4+ โดยกิจกรรมของเอนไซม์ nitrite reductase ดังสมกำร NO2- + 8H+ + 6e- NH4+ + 2H2O แสดงวิถี nitrate reduction (Dennis and Turpin, 1990) เอนไซม์ Nitrate reductase * เป็ นเอนไซม์ ที่พบทั้งในแบคทีเรียและพืช * MW 200-270 Kdal ประกอบด้ วยหน่ วยย่ อยที่เหมือนกัน 2 หน่ วย * จัดเป็ น molybdoflavo protein หรื อพวก flavin nucleotide มี Mo และ flavin เป็ นส่ วนประกอบเกำะแน่ นอยู่กบั เอนไซม์ ้ า flavo protein และมี Mo เรียกสารประกอบนี ว่ * flavin ทีร่ วมอยู่กบั เอนไซม์ ได้ แก่ FAD (ทำหน้ ำทีเ่ ป็ น เป็ น cofactor prosthetic group) แสดงโครงสร้ ำงของ nitrate reductase * เอนไซม์ nitrate reductase จะได้ รับอิเลคตรอนจำก NADH ซึ่งเป็ นสำรที่ได้ จำกปฏิกริ ิยำกำรหำยใจ ดังนี้ NO3- + NADH + H+ 2e+ NAD+ + H2O NO2- * NADH ถ่ ำยทอดe- ไปยังหมู่ flavin ของเอนไซม์ ทำให้ FAD ถูก reduced ไปเป็ น FADH2 ซึ่ง FADH2 จะถูกถ่ ำยทอด eไปยัง Mo (อยู่ในรู ปของ oxidise MO+6) ทำให้ สำรนี้ ถูก +5 +5 +5 NADH FAD MO NO reduced เป็ น MO (ในรู ป reduced) จะถูกถ่ ำยทอด3 e ให้แก่ nitrate ทำให้ nitrate ถูก reduced เป็ น nitrite NAD FADH2 MO+6 NO2- * ลำดับกำรถ่ ำยทอด e- จำก NADH ไปยัง NO3- ผ่ ำน หมู่ prosthetic ของเอนไซม์ nitrate reductase คือ NADH FAD heme molybdenum complex * สำหรับเอนไซม์ nitrate reductase ที่อยู่ใน แบคทีเรีย จะใช้ ferredoxin เป็ นตัวให้ อเิ ลคตรอน NO3- องค์ ประกอบทีม่ ีอทิ ธิพลต่ อ nitrate reductase ได้ แก่ 1. NO32. Mo 3. แสง 4. ฮอร์ โมน Nitrate Reduction กำรนำไนเตรตไปสร้ ำงเป็ นสำรประกอบ อินทรีย์ (nitrate assimilation) กำรดูด nitrate ใน cell ของรำก เป็ น กระบวนกำรขนส่ งแบบ active ต้ องใช้ พลังงำน และต้ องมีสำรตัวพำ (carrier) ที่เฉพำะเจำะจง จากการศึกษาพบว่า plasma membrane ของรำกพืชที่ยงั ไม่ เคยได้ รับ nitrate มำก่ อนจะมี carrier protein ที่จะพำ NO3- อยู่ เพียงเล็กน้ อยทำให้ รำกพืชดูด NO3- ได้ ในอัตรำที่ ต่ำ ถ้ ำให้ NO3- ไประยะเวลำหนึ่ง พบว่ ำกำรดูด NO3- จะเพิม่ ขึน้ 2-5 เท่ ำ เนื่องจำกมีกำร สั งเครำะห์ carrier protein เพิม่ ขึน้ เมื่อถูกชักนำ โดยกำรให้ ป๋ ยุ NO3- NO3- ทีเ่ ข้ ำสู่ รำกพืชจะถูกขนส่ งขึน้ สู่ ลำต้ นทำง xylem และสะสมไว้ ในรำกหรื อถูก reduced ภำยใน cell ของรำก พืชไม่ สำมำรถนำ NO3 ไปใช้ ในกำรสร้ ำง สำรอินทรีย์ได้ โดยตรง NO3- จะต้ องถูก reduced เป็ น NH4+ เสี ยก่ อน กำร reduced NO3- ได้ เป็ น NH4+ เรียก nitrate reduction เป็ นขั้นตอนทีเ่ กิดในพืชทุกชนิ พืชบำงชนิด reduced NO3- ภำยใน cell ของรำกพืชบำง ชนิดขนส่ ง NO3- ไปที่ cell ของใบแล้ว reduced NO3- ได้ เป็ น NH4+ ภำยใน cell ของใบพืชบำงชนิด สำมำรถ reduced NO3- ได้ เป็ น NH4+ ได้ ท้งั ใน cell ของรำกและ cell ของใบ แต่ ส่วนใหญ่ กระบวนกำร nitrate reduction เกิด ทีใ่ บเนื่องจำกพบ enzyme ทีเ่ กีย่ วข้ องกับกระบวนกำร nitrate reduction เป็ นจำนวนมำกทีใ่ บ มีผู้ศึกษำพบว่ ำกิจกรรมของ enzyme nitrate reductase ในใบจะสู งกว่ ำในรำก (ถ้ ำหำกคิดเป็ น กิจกรรมของ nitrate reductase ต่ อหน่ วย น้ำหนักสด) แต่ ถ้ำคิดเป็ นกิจกรรมต่ อหนึ่งหน่ วย protein ในเนื้อเยื่อรำกจะพบมำกกว่ ำในใบแต่ ถ้ำ ในระดับ cell จะพบ enzyme นีใ้ น cytoplasm กำร reduced NO3- ได้ เป็ น NH3 ต้ องใช้ e- 8 อนุภำค/1 โมเลกุลของ NO3กำร reduction ของ nitrate ประกอบด้ วย 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 กำร reduced nirtrate (NO3- ) ให้ เป็ น nitrite (NO2- ) โดยกิจกรรมของ enzyme nitrate reductuse (NR) (Beevers and Haquneman, 1983) NO3- + 2H+ + 2e- NO2 + H2O enzyme nitrate reductase เป็ น enzyme ทีอ่ ยู่ใน cytoplasm ของ cell รำกหรื อ cell ใบ มีสำรทีใ่ ห้ e- และ H+ มำจำกปฏิกริยำ กำรสั งเครำะห์ ด้วยแสงและกำรหำยใจ เช่ น NADPH+H+ หรื อ NADH+H+ ดังสมกำร NO3 -+NAD(P) + H+H -+NAS(P) NO2 + H 2 O ขั้นตอนที่ 2 NO2- จะเคลื่อนทีเ่ ข้ ำสู่ plastid ในกรณีของ cell รำกหรื อ chloroplast ในกรณีของ cell ใบ จำกนั้น NO2- จะถูก reduced ให้ เป็ น NH4+ โดยกิจกรรมของ enzyme nitrite reductase ดัง สมกำร NO3- + 8H+ + 6eNH4 + 2H2O จำกกำรศึกษำปฏิกริ ิยำกำร reduce NO3- ให้ เป็ น NH3 ปฏิกริ ิยำ oxidation reduction ที่เกิดขึน้ จะเกีย่ วข้ องกับ e- ขั้น 2 อนุภำค ดังนั้นน่ ำจะมี intermediate อย่ ำงน้ อย 3 ตัวมำเกีย ่ วข้ อง ดังนั้นปฏิกริ ิยำที่น่ำจะเป็ นไปได้ คือ NAPH or NADH NO3nitrate NO2 nitrite N2O2 hyponitrite NH2OH hydroxyamine reduetase NH3 ammonia NO2- เป็ นอิออนที่เป็ นพิษต่ อ cell พืชดังนั้นกำร + reduced NO2 ให้ เป็ น NH4 จะเกิดอย่ ำงรวดเร็ว พืชจะสร้ ำง enzyme nitrite reductase ไว้ ใน + ปริมำณทีส่ ู งมำก NH4 ที่เกิดขึน้ จะเปลีย่ นเป็ น สำรประกอบอินทรีย์อย่ ำงรวดเร็วโดยกิจกรรม ของ enzyme glutamine synthethase (GS) และ glutamate synthase (GOGAT) Enzyme Nitrate reductase Nitrate reductase เป็ น enzyme ที่พบ ทั้งใน bacteria และในพืช nitrate reductase เป็ น molybdoflavo protein เป็ นพวก flavin nucleotide มี Mo และ flavin เป็ นส่ วนประกอบเรียกสำรประกอบนีว้ ่ ำ flovo protein มี Mo เป็ น cofactor Flcvin ทีร่ วมอยู่กบั enzyme คือ FAD ทำหน้ ำที่เป็ น prosthetic group nitrate reductase ในพืชมีขนำด molecule ประมำณ 200-270 kdal ประกอบด้ วย two identical subunit (หน่ วย ย่ อย 2 หน่ วยที่เหมือนกัน) แต่ ละหน่ วยย่ อยมี นำ้ หนักโมเลกุลประมำณ 100-120 kdal Nitrate reductase เป็ น enzyme ประเภท adaptive enzyme คือ ถ้ ำพืชเจริญอยู่ในสภำพทีม่ ี N2 หรื ออยู่ ในรูปของ NH4+ หรื อสำรอินทรีย์ชนิดต่ ำงๆ enzyme ชนิดนีจ้ ะไม่ ถูกสร้ ำงขึน้ สรุป nitrate reductase แต่ ละหน่ วยย่ อย ประกอบด้ วย 3 prosthetis groups คือ 1. FAD (Flavin adenine dinucleotide) 2. Heme (cytochrome 557 (cyt6) 3. Molybdenum cofactor (Moco) ถ้ ำปลูกพืชในดินทีข่ ำด Mo กิจกรรมของ nitrate reductase จะตำ่ มำกทำให้ พืชใช้ ป๋ ุย NO3 ไม่ ได้ ถ้ ำพืชเจริญในที่มี nitrate พืชจะสร้ ำง enzyme nitrate reductase ขึน้ มำจะ reduce nitrate ให้ เป็ น nitrite enzyme nitrite reductaec ในพืชจะได้ รับ e จำก NADH ซึ่งเป็ นสำรที่ได้ จำกกำรหำยใจ ดังสมกำร 2e NO3 + + NADH+H +NAD++H2O NO2 NADH ถ่ ำยทอด e- ไปยังหมู่ flavin ของ enzyme ให้ FAD ถูก reduced ไปเป็ น FADH2 และถ่ ำยทอด e- ไปยัง Mo ซึ่งอยู่ในรูปของ oxidise form Mo+6 ซึ่งจะถูก reduced เป็ น Mo5 ซึ่งจะถูกถ่ ำยทอด e- ให้ nitrate ทำให้ nitrate ถูก reduced เป็ น nitrite NADH FAD Mo+5 NO3+5 NAD FADH2 MO+6 N O 2 - ลำดับกำรถ่ ำยทอด e- จำก NADH ไปยัง NO3ผ่ ำนหมู่ prosthetic ของ enzyme nitrate reductase คือ NADH FAD heme molybdenum complex NO3 - องค์ ประกอบที่มีอทิ ธิพลต่ อ nitrate reductase ได้ แก่ 1. NO3ถ้ ำมีน้อย กำรกระตุ้นกำรสร้ ำง enzyme มี น้ อย เนื่องจำก nitrate reductase เป็ น inducible enzyme คือ substrate กระตุ้นกำร สร้ ำง enzyme ถ้ ำไม่ มี substrate จะไม่ มี enzyme 2. Mo กระตุ้นกำรสร้ ำง enzyme เช่ นเดียวกับ NO3 3. แสง ไม่ ได้ มีอทิ ธิพลโดยตรงต่ อกำรสร้ ำง nitrate reductase ถ้ ำให้ glucose แทนแสง ก็ทำให้ มีกำรสร้ ำง nitrate reductase ได้ เช่ นกัน อำจกล่ ำวว่ ำกระบวนกำรหำยใจมีผลต่ อ กำรสร้ ำง nitrate reductase 4. ฮอร์ โมน Cytokinin จะกระตุ้นกิจกรรมของ nitrate reductase มำกกกว่ ำฮอร์ โมนอื่น Enzyme Nitrate reductase Nitrate reductase เป็ น enzyme ทีอ่ ยู่ใน chloroplast ของ cell ของใบหรื ออยู่ใน plastids ของ cell รำก เป็ น enzyme ที่ทำหน้ ำที่เปลีย่ น nitrate ให้ เป็ น NH4+ เป็ น enzyme พวก Flavoprotein เช่ นเดียวกับ nitrate reductase แต่ มี Fe และ Cu เป็ นส่ วนประกอบที่สำคัญ Electron จำก ferredoxin จะถูกถ่ ำยทอดให้ แก่ iron-sulfur cluster ต่ อจำกนั้นจะถ่ ำยทอดให้ หมู่ heme ซึ่งจะนำ e- ไป reduced NO2- ได้ เป็ น NH4ในส่ วนของพืชที่ไม่ มีกำรสั งเครำะห์ ด้วย แสง สำรที่ให้ e- แก่ nitrite อำจเป็ น NADH และ NADPH Nitrite reductase ใน chloroplast ของใบจะ catalyst ปฏิกิริยา reduction ของ nitrite โดย จับ e- จาก ferredoxin ดังปฏิกิริยา 6e NO2-+6Fdred+8H+ NH4++6Fd(ox)+2H2O ้ ขันตอนการ reduced nitrite ให้ เป็ น NH3+ ้ อาจเขียนได้ตามขันตอนต่ อไปนี ้ 2eNO2- (HNO) (H2NOH) NH3 hyponitrous hydroxyl +H2O acid amine hyponitrous acid และ hydroxyl amine เป็ น intermediate ทีต่ ดิ แน่ นอยู่กบั enzyme แยกออกยำก กระบวนกำร Denitrification nitrate จะละลำยนำ้ ได้ ดมี ำก จึงสู ญเสี ยไปกับ กำรไหลของน้ำเป็ นปริมำณมำก nitrate บำงส่ วนจะสู ญเสี ยไปจำกดิน (Volatilization) โดยกำร reduced ของ bacteria บำงชนิดกลำยเป็ น gas N2 ระเหยไปในบรรยำกำศ เรียกกระบวนกำรนีว้ ่ ำ denitrification Bacteria ที่สำมำรถ reduced nitrate หรื อ nitrite ให้ เป็ น nitrogen เรียกว่ ำ denitrieying bacteria ต.ย. Bacteria พวกนีค้ ือ Thiobacillus denitrificans Pseudomonas denitrificans Micrococcus, deniftrificans ปฏิกริ ิยำกำร reduce Nitrate ให้ เป็ น N2 ประกอบด้ วย 4 ขั้นตอนคือ NR ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนที่ 4 NO2NO2NO N 2O NO2NO N 2O N2 กำร reduced nitrate ให้ เป็ น nitrite ในขั้น แรกต้ องใช้ nitrate reductase เช่ นเดียวกับที่ เกิดในปฏิกริ ิยำ nitrate reduction สิ่ งมีชีวติ เกีย่ วข้ องกับกระบวนกำร denitrification bacteria ทีม่ สี ่ วนเกีย่ วข้ องกับกระบวนกำร denitrification ของ nitrate คือ Pseudomonas Aoehromobacter, Bacillus, Micrococcus, Thiobacillus และ Denitrificans สำหรับ Pseudomonas และ Achromobacter เป็ น bact ทีส่ ำคัญมำก มีกจิ กรรมมำกทีส่ ุ ดในดิน สำหรับ bacteria ที่เกีย่ วข้ องกับ denitrification ของ nitrite คือ Bacillus pyocyaneus Peudomonas aeruginosa Thiobacillus denitrificans Bacillus Subtillis ปฏิกริ ิยำ denitrification จะเกิดขึน้ เฉพำะในที่ที่ ขำด O2 เท่ ำนั้น ซึ่งตรงข้ ำมกับปฏิกริ ิยำ nitrification ซึ่งเกิดเฉพำะในที่มี O2 เท่ ำนั้น ปฏิกริ ิยำ denitrification อำจเรียกว่ ำ dissimilation of nitrate โดย NO3- จะถูก เปลีย่ นเป็ น N2 โดย bacteria พวก denitrifying bacteria NO3 ถูกชะล้ ำงออกจำกดินได้ ง่ำย นอกจำกนีย้ งั สู ญหำยจำกดินโดย denitrifying bacterin ซึ่ง จะเปลีย่ น NO3 ให้ เป็ น N2 ดังนั้นดินซึ่งมักขำด N2 ดังนั้น biological N2 fixation จึงเป็ น กระบวนกำรที่มีควำมสำคัญในกำรเพิม่ N2 ได้ แก่ ดิน เอนไซม์ Nitrite reductase ๏ อยู ่ในคลอโรพลาสต ์ของเซลล ์ใบ หรื อในพลำสติคของเซลล์ รำก ่ ่ ๏ ทาหน้าทีเปลี ยน nitrite ให้ เป็ น NH4+ ๏ เป็ นเอนไซม์ พวก Flavoprotein มี Fe และ Cu เป็ น ส่ วนประกอบสำคัญ ่ MW ประมำณ 60 Kdal มีหมู่ ๏ เป็ นโปรตีนทีมี prosthetic 2 หมู่ (4Fe 4S ironsulfur Cluster) กับหมู่ heme ๏ สำรทีใ่ ห้ e- แก่ nitrite ได้ แก่ ferredoxin ๏ Ferredoxin อยู่ในสภำพทีถ่ ูก reduced ได้ จำก ปฏิกริ ิยำแสงจำกกระบวนกำรสั งเครำะห์ แสง ๏ Ferredoxin จัดว่ ำเป็ นสำรทีม่ กี ำลัง reduced สู ง มำก สำมำรถ reduced nitrite ให้ เป็ น NH4+ Light Light reactions in photosynthesis Ferredoxin (reduced) e- H+ (Fe4S4) Heme Nitrite reductase Ferredoxin (oxidized) NO-2 nitrate NH4+ ammonia แสดงกระบวนกำรรีดวิ ส์ nitrite โดย nitrite reductase (Taiz and Zeiger, 1990) @ พืชที่ไม่ มีกำรสั งเครำะห์ แสง สำรที่ให้ e- แก่ nitrite อำจเป็ น NADH และ NADPH @ Nitrite reductase ในคลอโรพลำสต์ ของใบจะ catalyst ปฏิกริ ิยำ reduction ของ nitrite ดังปฏิกริ ิยำ 6eNO2- + 6Fered + 8H+ NH4+ + 6Fd(ox) + 2H2O @ Nitrite ที่มีปริมำณมำกเกินไปจะเป็ นอันตรำย ้ ช และสัตว ์ ทังพื NO2- 2e- 2e- (HNO) hyponitrous acid 2e- (H2NOH) NH3 + H2O hydroxyl amine @ HNO และ H2NOH เป็ น intermediate แยกออกจำกเซลล์ ไม่ ได้ กระบวนกำร Denitrification # ไนเตรทบำงส่ วนอำจสู ญเสี ยไปจำกดินโดยกำร reduced ของแบคทีเรียบางชนิ ดกลายเป็ นก๊าซ N2 ระเหยไปใน ้ า บรรยากาศ เรียกกระบวนการนี ว่ # แบคทีเรียที่ reduced nitrate หรื อ nitrite ให้ เป็ นไนโตรเจน Denitrification เรียก denitrifying bacteria ได้ แก่ Thiobacillus denitrificans, Pseudomonas denitrificans, Micrococcus denitrificans # ในสภำพที่ขำด O2 แบคทีเรียจะใช้ nitrate ในกำร oxidize substrate แทนกำรใช้ O2 # ปฏิกริ ิยำกำร reduce ไนเตรทให้ เป็ น N2 ประกอบด้ วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 NO3NO2ขั้นตอนที่ 2 NO2NO ขั้นตอนที่ 3 NO N2O ขั้นตอนที่ 4 N2O N2 สิ่ งมีชีวติ ที่เกีย่ วข้ องกับกระบวนกำร denitrification แบคทีเรียที่เกีย่ วข้ องในกระบวนกำร denitrification ของไนเตรต คือ Pseudomonas, Achromobacter, Bacillus, Mirococcus, Thiobacillus และ Denitrificans จุลนิ ทรีย์บำงพวกที่เป็ น chemoautotrops คือพวกที่ใช้ อนิ นทรีย์สำรเป็ นแหล่ งของพลังงำน และใช้ อนินทรีย์ คำร์ บอนเป็ นแหล่ งของคำร์ บอน เช่ น Mirococcus denitrificans และ Thiobacillus denitrificans ตัวอย่ ำงของปฏิกริ ิยำ denitrification โดยแบคทีเรีย Thiobacillus denitrificans จะเปลีย่ น nitrate ให้ เป็ น N2 ในสภำพที่มี H2O และ S 5S + 6KNO3 + 2H2O 3N2 + K2SO4 + 4KHSO4 5K2S2O3 + 8KNO3 + H2O 4N2 + 9K2SO4 + H2SO4 กลไกของกระบวนกำร denitrification เกิดจำกจุลนิ ทรีย์ใช้ ไนไตรท์ หรื อไนเตรตเป็ นตัวรับ eเมื่อ O2 ไม่ เพียงพอหรื อขำด O2ไนเตรตหรื อไนไตรท์ จะถูกลด O2 จนได้ N2 ดังสมกำร NO-3 nitrate NO-2 nitrite (HNO) nitroxyl NO nitric oxide -H2O H2N2O2 N2O hyponitrite N2 กระบวนกำร Ammonification ่ กระบวนการเปลียนแปลง สำรอินทรีย์ให้ เป็ น ammonia ammonia ที่ได้ อำจทำปฏิกริ ิยำกับสำรอื่น เช่ น H2O หรื อ CO2 ได้ ammonia ion หรื อเกลือ แอมโมเนีย เช่ น (NH4)2CO3 Ammonifiers เป็ นจุลนิ ทรีย์ที่เกีย่ วข้ องกับกำรแปร สภำพจำกสำรอินทรีย์เป็ นสำรอนินทรีย์ ประกอบด้ วย แบคทีเรีย รำ และแอคติโนมำยซีท N-oxides gas N2 Organic N denitrification mineralization NH3 nitrification NO3 NH4 Bound to exchange complex leach แสดงกระบวนกำร mineralization, nitrification และ denitrification Plants Immobilization - กำรแปรสภำพจำกสำรอนินทรีย์ไนโตรเจนเป็ น สารอินทรีย ์ไนโตรเจน - เป็ นกระบวนกำรทีจ่ ุลนิ ทรีย์ดูดเอำสำรอนินทรีย์ ไนโตรเจนในดินไปใช้ (assimilation) เพื่อสร้ ำง เซลล์ ใหม่ - กระบวนกำรนีเ้ ป็ นกำรสู ญเสี ยไนโตรเจนไปจำกดิน - อินทรีย์ไนโตรเจนในรู ปของแอมโมเนียม เป็ นรู ป ่ กดู ดนาไปใช้โดยแบคทีเรีย แอคติ ทีถู โนมำยซีท วิธีกำรหำค่ ำไนโตรเจนที่สิ่งมีชีวติ บำงชนิดตรึงไว้ (Method of nitrogen estimation) Kjeldahl method การหาปริมาณ N2 ที่เพิม่ ขึน้ อำจทำได้ โดย วิธี ของ Kjeldahl หรื อ Dumas อีกวิธีหนึ่งคือกำรใช้ เทคนิคกัมตภำพรังสี ด้ วยเครื่ อง mass spectrometer, วิธีที่ใช้ เครื่ องมือแบบง่ ำย คือวิธีหำปริมำณ N2 ในเซลล์ Acetylene Reducing Technique Nitrogenase ที่พบในสิ่ งมีชีวติ ที่ตรึง N2 สำมำรถ reduced acetylene ให้ เป็ น ethylene ได้ ใช้ ควำมสั มพันธ์ นีใ้ นกำรวัดกำรตรึง N2 ของสิ่ งมีชีวติ โดยวัดจำก ethylene ที่เกิดขึน้ มำจำกสิ่ งมีชีวิต ควำมสำคัญของ nitrogenous compound 1. Amino acid มีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ H R C COOH NH2 2. Amide มีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ NH2 H H HOOC C C C C H H H O glutamine สำรประกอบ ที่มี nitrogen ที่สำคัญต่ อสิ่ ง มีชีวติ สำมำรถ แบ่ งได้ ดงั นี้ NH2 3. Peptide เกิดจำกกำรต่ อกันระหว่ ำงหมู่ COOH ของกรดอมิโน 1 ตัวและ NH2 ของกรดอมิโนอีก 1 ตัว O C C R R C N H H N C O C R 4. โปรตีน แบ่ งเป็ น 2 ประเภทคือ 1. Simple protein เช่ น albumin, globulin 2. Conjugate protein เช่ น glycoprotein 5. นิวคลีอกิ แอซิด มี 2 ชนิดคือ RNA และ DNA เป็ น polymer ของ nucleotide ซึ่งประกอบด้ วย nitrogenous base, ribose หรื อ deoxyribose และฟอสฟอรัส แหล่งเก็บสะสมโปรตีนในเมล็ด และกำรนำไปใช้ (Protein Storage and Utilization in Seed) โปรตีนที่สะสมอยู่ในเมล็ด จะประกอบด้ วยสำยโพลี เปปไทด์ หลำยสำยประกอบกันเป็ นโมเลกุลเชิงซ้ อน ขนำดใหญ่ พืชใบเลีย้ งเดีย่ วมักสะสมโปรตีนไว้ ในรู ป prolamin หรื อ glutelin พืชใบเลีย้ งคู่มักสะสมโปรตีนพวก globulin โปรตีนเหล่ ำนีจ้ ะสะสมอยู่ในโครงสร้ ำงที่เรียกว่ ำ aleurone bodies หรื อ protein bodies ในระหว่างการเจริญ (development) เมล็ด จะมีกำรสะสมอำหำรไว้ ในปริมำณมำก เก็บไว้ ในเนื้อเยื่อสะสม อำหำร เช่ น ใบเลีย้ ง (cotyledons) หรื อ endosperm ่ ้ อาหารทีสะสมไว้ จะขึนอยู ่กบ ั ออ กำแนลล์ ที่ใช้ ในกำร สะสม เช่น - โปรตีนจะเก็บสะสมไว้ ใน protein bodies บำงครั้ง จะรวมอยู่กบั minor reserve คือ Phytin - ไลปิ ดจะเก็บสะสมไว้ ใน lipid bodies - แป้งจะสะสมไว้ ใน starch grains (amyloplast) ชนิดของโปรตีนและส่ วนประกอบ (Protein types and their composition) Osborne แบ่ งชนิดของโปรตีนตำมควำมสำมำรถ ในกำรละลำย ได้ เป็ น 4 ชนิด คือ 1. Albumins 2. Globulins พบใน legumes และ ข้ ำว oats 3. Glutelins พบใน cereal seed 4. Prolamins พบใน cereal seed Storage protein เป็ น Oligomeric haloprotein ประกอบด้ วย 2 ถึงหลำยๆ subunit Subunit ประกอบด้ วย 2 ถึงหลำยๆ polypeptide chain ต่ อกันด้ วย hydrogen bonding หรื อ disulfide bonds ระหว่ ำง cysteine residues Globulin ของ legume แบ่ งเได้ โดยใช้ sedimentation coefficients (s) แบ่ งออกเป็ น - globulin ขนำดใหญ่ คือ (11S หรื อ legumin protein) มี MW ~ 320000-360000 ประกอบด้ วย 6 subunit มี MW ตั้งแต่ จำก 35000-80000 Subunit ของ legumin ประกอบด้วย acidic และ basic polypeptides ใน ปริมำณ เท่ ำๆกัน Storage Legumins ของพืชบำงชนิดจะค่ อนข้ ำงแตกต่ ำง กัน (heterogenous) - globulin ขนำดเล็ก (7S หรื อ vicilin protein) vicillin จะไม่ รวมตัวไปเป็ นส่ วนประกอบของ sulfur-containing amino acid และไม่ มี disulfide bridging ระหว่ ำง subunit มีเพียง hydrogen bonding ๏ Storage protein ของ cereal ส่ วนใหญ่ คือ prolamin ๏ Storage protein ในข้ ำวโพดคือ Zein ประกอบด้ วย 2 subunit เกิดจำกกำรรวมตัวของโพลีเปปไทด์ ประมำณ 30 polypeptides ๏ Storage protein ในข้ ำวสำลี คือ gliadin มีอย่ ำงน้ อย 46 polypeptides ๏ เมล็ดบางชนิ ดประกอบด้วย unusual storage albumin เช่ น ureaseใน jack bean เป็ นสำรยับยั้งกำรสร้ ำง โปรตีน (proteolytic inhibitors) ้ งมีพวก toxic เช่ น ricinD ในพวก ๏ นอกจากนี ยั caoter bean หรื อพวกทีม่ ีคุณสมบัตทิ ำงชีวภำพทีน่ ่ ำสนใจคือ lectins ทีร่ วมตัวอยู่กบั erythrocytes ๏ Storage globulins และ albumins ส่ วนใหญ่ เป็ นพวก glycoprotein ประกอบด้ วย mannose, glucose และ Nacetyl glucosamine (Murray, 1984) แสดงเปอร์ เซนต์ ของโปรตีนชนิดต่ ำงๆใน cereal และ legumes บำงชนิด (Dennis and Turpin, 1990) ชนิดของพืช Albumin Globulin Prolamin Glutelin Wheat 9 5 40(gliadin) 46(glutenin) Maize 4 2 55(zein) 39 Rice 5 10 5(oryzin) 80(oryzenin) Oat 11 56 9(avenin) 23 Pea 40 0 0 Soy bean 30 60(vicillin, convicillin, legumin 70(glycinin, b-conglycinin 0 0 Protein body ่ าหน้าทีเก็ ่ บสะสมโปรตีนใน ๏ แหล่งทีท เมล็ด ๏ unit membrane bound ่ ๏ โดยทัวไปมี รูปร่างกลม (spherical) m ๏ เส้นผ่าศู นย ์กลางประมาณ 0.1-25 ๏ โปรตีนอยู่ในรู ป inclusion เช่ น Phytin-containing globoids หรื อ proteinaceous crystalloids ๏ ชนิดของ proteinaceous matrix ของ protein bodies ขึน้ อยู่กบั species และ tissue กำรสั งเครำะห์ โปรตีนสะสม (Storage protein synthesis) ๏ ในเมล็ด การสังเคราะห ์ Storage protein เกิด หลังจำกกำรแบ่ งเซลล์ ช่ วง 2/3 ตอนท้ ำยของกำร development ๏ หยุดสร้ ำงในช่ วงขั้นสุ ดท้ ำยของ maturation drying (Higgins, 1984) ่ น ๏ ความแตกต่างของการเริมต้ สั งเครำะห์ Storage protein ชนิดต่ ำงๆ ขึน้ อยู่กบั กำร ควบคุมทำงด้ ำนพันธุกรรมและสิ่ งแวดล้ อม กำรสร้ ำง protein body ในเมล็ดพืชพวก legume (Protein body formation in legume seeds) ๏ Protein body ใน storage parenchyma cell ของ legume seed m 1-10 ๏ เส้นผ่าศูนย ์กลางประมาณ ๏ ส่ วนใหญ่ รูปร่ ำงและโครงสร้ ำงจะเหมือนกัน (homogenous) ๏ Proteinaceous matrix ประกอบด้ วย small globoid inclusion ขนำดเล็ก ๏ Protein body เหมือนแวคิวโอลขนำดเล็กมีหน้ ำทีเ่ ฉพำะในกำรเก็บโปรตีน ้ ๏ ช่วงการพัฒนาของใบเลียงมี RER จำนวนมำกในช่ วงที่มี กำรสะสม storage protein กำรสร้ ำง protein body ในพวก cereal (Protein body formation in cereal grains) ๏ โครงสร ้างของ protein body จะอยู่ในเซลล์ของ endosperm ๏ รูปร่ ำงกลม (spherical) m ๏ ขนำดเส้ นผ่ ำศูนย์ กลำงประมำณ 2-5 ๏ ประกอบด้ ย globoid และ crystalloid protein body ใน วstarchy endosperm มีรูปร่ ำงinclusion 3 แบบ คือ 1. Protein body ขนำดใหญ่ เส้ นผ่ ำศูนย์ กลำงประมำณ 1-3 m 2. Protein body ขนำด่ เส้ นผ่ ำศูนย์ กลำงประมำณ 0.1-1 m 3. Crystalline protein body มีลกั ษณะ spherical bodies และ angular เส้ นผ่ ำศูนย์ กลำงประมำณ 1-5 m กำรเคลื่อนย้ ำยไนโตรเจนสะสม (Nitrogen storage and Transport) ่ ๏ ในการเคลือนย้ ายไนโตรเจนสะสมจาก อวัยวะหนึ่งไปยังอีกอวัยวะหนึ่ง เช่ น 1. กำรเคลื่อนย้ ำยจำก nitrogen-fixing root noduleไปยัง ใบและผล 2. จำกใบทีแ่ ก่ กำลังจะร่ วงไปยังใบอ่ อนและผล 3. จำกใบเลีย้ งของเมล็ดที่กำลังงอกไปยังปลำยยอดและ ปลำยรำก ปริมำณของ C จำกัดกำรเคลื่อนย้ ำยไนโตรเจน ้ั งจะเก็บไนโตรเจนสะสมไว้ใน ๏ พืชชนสู รู ป asparagine และมีกำรเคลื่อนย้ ำยในรู ปของ asparagine ๏ Amide nitrogen มำจำก amide group ของ glutamine โดยตรง สั งเครำะห์ โดยเอนไซม์ asparagine synthetase NH2 O O OH O OH NH2 CH2 C C AMP + CH2 ATP PPi CH2 CH2 CH2 CH2 CHNH2 CHNH2 CHNH COOH 2 C CHNH2 COOH Glutamine + COOH Aspartate O C + CH2 COOH Glutamate Asparagine แสดงกำรสั งเครำะห์ Asparagine (Lea and Leegood, 1993) ๏ ข้อสังเกต N : C ratio ของ asparagine คือ 2 : 4 ซึ่งตรงข้ ำมกับ 1 : 5 ใน glutamate ้ ๏ ใบเลียงของ germinating seed เป็ น แหล่ งของ asparagine synthetase (เป็ น เอนไซม์ ทตี่ ้ องกำร Cl- สำหรับกำรเกิดปฏิกริ ิยำ และถูกยับยั้งโดย Ca+) กลไกของกระบวนกำร denitrification เกิดจำกจุลนิ ทรีย์ใช้ nitrite หรื อ nitrate เป็ นตัวรับ e- เมื่อ O2 ไม่ เพียงพอหรื อขำด O2 nitrate หรื อ nitrite จะถูกลด O2 ตำมลำดับจนกลำยเป็ น N2 ดังสมกำร NO3 - nitrate nitrite NO2 (HNO) nitrous nitroxyl - NO H2N2O2 nitric acid -H2O N2O hypo nitrite N2 nitrogen กระบวนกำรกำร ammonification กระบวนกำรเปลีย่ นแปลงสำรอินทรีย์ให้ เป็ นสำรอนินทรีย์ (ammonia ) คือ ammonification หรื อ mineralization จุลนิ ทรีย์ทเี่ กีย่ วข้ องกับกำรแปรสภำพ สำรอินทรีย์ไปเป็ นสำรอนินทรีย์คือพวก ammonifiers ซึ่งประอบด้ วย bacteria รำและ actinomycetes ชนิดต่ ำงๆ แสดงกระบวนกำร mineralization, nitrification และ denitrification ดังนี้ denitrification N 2 organic N NH3 nitrification mineralization NH4 bound to exchange complex NO3 leach plants Immobilization กำรแปรสภำพจำกสำรอนินทรีย์ nitrogen เป็ นสำรอินทรีย์ nitrogen เป็ นกระบวนกำรทีจ่ ุลนิ ทรีย์ดูดเอำ อนินทรีย์ไนโตรเจนในดินไปใช้ (assimilation) ถือเป็ นกำรสู ญเสี ยไนโตรเจนไปจำกดิน จุลนิ ทรีย์จะนำทั้ง NH3 และ nitrate ไปใช้ สร้ ำง cell ได้ (แนวโน้ มจะใช้ NH3 ก่ อนแล้ วใช้ nitrate เมื่อ NH3 หมด) แหล่ งเก็บสะสม protein ในเมล็ดและกำรนำไปใช้ Protein Storge and Utilization in Seed เมล็ด-one of the richest source of plant protein มี protein ประมำณ 10-15% เมล็ด-ประกอบด้ วยสำย p o l y p e p t i d e หลำยๆ สายประกอบกันเป็ น molecule เชิงซ้ อน ขนาดใหญ่ เมล็ดธัญพืชของพืชเลีย้ งเดี่ยว เช่น ข้ ำว ข้ ำวโพด สะสม protein ในเมล็ดในรูป prolamin หรื อ glutelin ส่ วนเมล็ดพืชใบเลีย้ งคู่ เช่ นพืชตระกูลถัว่ สะสม protein ในรุป globulin storage protein เหล่ ำนีส้ ะสมอยู่ในรู ป ของ insoluble form ในโครงสร้ ำงที่เรียกว่ ำ aleurone bodies หรื อ protein bodies เมื่อเมล็ดจะงอก enzyme endopeptidase จะย่ อยพันธะ peptide ภำยใน ทำให้ สำย polypeptide สั้ นลง ้ enzyme exopeptidase จะ จากนัน ย่ อยพันธะ peptide จำกส่ วนปลำย ซึ่งจะปล่ อย amino acid เป็ นอิสระทีละโมเลกุล Exopeptidase จะย่ อย peptide bond จำกปลำยด้ ำน amino (amino terminus) เรียกว่ ำ aminopeptidase ส่ วน enzyme exopeptidase ที่ย่อย peptide bond จำก ปลำยด้ ำน carboxy terminus เรียก carboxypeptidase Proein จะเก็บสะสมไว้ ใน protein bodies บำงครั้ง protein จะสะสมรวมกับ minor reserve คือ phytin lipid จะสะสมไว้ ใน lipid bodies แป้งจะ สะสมไว้ ใน starch grains (amyloplast) ชนิ ดของ protein และ ส่ วนประกอบ (Protein types and their composition) Osborne แบ่ งชนิดของ protein เป็ น 4 ชนิด โดยแบ่ งตำมควำมสำมำรถในกำรละลำย คือ 1. Albumin ละลำยได้ ในน้ำ (soluble in water) และ dilute buffers ที่ pH เป็ นกลำง 2. Globulins ละลำยได้ ใน salt solution แต่ ไม่ละลายในน้ า พบใน legumes และข้ ำว oats 3. glutelins ละลำยในกรดเจือจำง (dilute acid) และด่ ำง (alkali) พบใน cereal seed 4. Prolamins ละลำยใน 70-90% aqueous ethanol พบใน cereal seed Glutelins และ prolamins พบมำกในเมล็ด ธัญพืช globulin จะพบมำกในพวก legumes และข้ ำว oat Storage protein เป็ น oligomeric haloprotein ที่ประกอบด้ วย 2 ถึง หลำยๆ subunit The nutritional problem with cereal and legume is that they contain limited amounts of certain amino acid which essential to man and monogastric animals Most cereal are deficient in lysine and threonine Legume-are deficient in sulfur amino acid rice-have low overall protein level แต่ มี better amino acid balance amino acid ทีข่ ำดในธัญพืช ข้ ำวโพด ขำด Threonine, tryptophan, lysine ข้ ำว ขำด Threonine, thryptophane ข้ ำวสำรขำว มี lysine ต่ำ ถั่วเหลือง มี methionine ต่ำ โครงสร ้างและส่วนประกอบของ globulin globulin ใน legume แบ่ งเป็ น 2 ชนิด คือ haloprotein ซึ่งจะแยกได้ โดยใช้ sedimentation coefficientes ซึ่งหำค่ ำได้ โดยใช้ ultracentrifugation แบ่ ง ได้ เป็ น 1. Globulin ขนำดใหญ่ คือ legumin protein มีขนำด 11S MW ประมำณ 320,000-360,000 มี 6 subunits ซึ่งมี MW ตั้งแต่ 35,000-80,000 subunit ของ legumin ประกอบด้ วย acidic และ basic polypeptides ในปริมำณ เท่ ำๆ กัน ในถั่วพวก pea และ Soybean acidic polypeptide ส่ วนใหญ่ จะมี MW ~ 40,000 และจะต่ ออยู่โดย disulfide bond สำหรับ basic polypeptide จะมี MW~ 20,000 2. Globulin ขนำดเล็ก เรียก vicilin protein มีขนำด 7S จะมีลกั ษณะเป็ น heterogenous Storage protein ของ cereal ส่ วนใหญ่ คือ prolamins storage protein ในข้ ำวโพดคือ Zeatin ซึ่งประกอบด้ วย 2 subunit ที่มีขนำดใหญ่ ขนำด เล็ก อย่ ำงละ 2 subnit เกิดจำกกำรรวมตัวของ polypeptide ประมำณ 30 polypeptide storge protein ในข้ ำวสำลีคือ gliadin มี 46 polypeptide Storage protein ในทำนตะวันคือ albumin storage proein ใน jack bean มี unusual storage albumin เช่ น urease ซึ่งเป็ น proteolytic inhibitor storage globulins และ albumins ส่ วน ใหญ่ เป็ นพวก glycoprotein ซึ่งมีส่วนประกอบ ของ mannose glucose และ N-acetyl glucosamine Glycinin and conglycinin (in soybean) ในพืชพวก legumes, soybean seeds จะมี protein ประมำณ 40% โดยน้ำหนัก ซึ่ง protein มี 4 ชนิดที่สำคัญคือ glycinin (11S), a b และ g conglycinin (7S) glycinin และ b conglycinin จะมีมำก ประมำณ 70% ของ total seed protein อัตรำส่ วนของ glycinin และ b conglycinin จะมีอตั รำส่ วนเช่ น 1 : 1 ถึง 3 : 1 ใน soybean แต่ ละ cultivars ค่ ำเฉลีย่ ของglycinin : conglycinin = 1.6 : 1 ในกำรแยก glycinin จำก soybean seed ค่ อนข้ ำงยำก glycinin ที่แยกได้ จำกเมล็ดจะเป็ น hexameric complex มี MW 360,000 ประกอบด้ วย six nonidentical subunits มีค่ำ MW เฉลีย่ 60,000 แสดงเปอร์ เซนต์ protein ชนิดต่ ำงๆใน cereal และ legumes บำงชนิด ชนิดของพืช Albumin Globulin Prolamin ข้ าวสาลี (Wheat) 9 5 45(gliadin) ข้ าวโพด(maize) 4 2 55(Zein) ข้ าว (rice) 5 10 5 (ozyzin) ข้ าวโอ๊ ต (oat) 11 56 9 (avenin) ถัว่ (pea) 40 60(vicilin 0 convicillin legumin) ถัว่ (soybean) 30 70 (glycinin) 0 b -conglycinin Glutelin 46(glutenin) 39 80 (oryzenin) 23 0 0 Proteinbody แหล่ งที่ทำหน้ ำที่เก็บสะสม protein แหล่ ง ใหญ่ ในเมล็ดคือ protein bodies Protein body - organelles ที่เป็ น unit membrane bound มีรูปร่ ำงกลม (spherical) มี เส้ นผ่ ำศูนย์ กลำงประมำณ 0.1-25 m Protein จะอยู่ในรูป inclusion เช่ น phytin-containing globoids หรื อ proteinaceous crystalloids กำรสร้ ำง protien body ในเมล็ดพืชพวก legume (Protein body formation in legume seeds) protein body ใน storage paranchyma cell ของ legume seed ทัว่ ไปจะมีเส้ นผ่ ำศูนย์ กลำง 110 m ส่ วนใหญ่ รูปร่ ำง โครงสร้ ำงจะ เหมือนกัน protein body เหมือน vacuole ขนำดเล็กมี หน้ ำทีเ่ ฉพำะในกำรเก็บ protein ในช่ วงกำรพัฒนำของใบเลีย้ งพวก legume จะมี rough endoplasmic reticulum (RER) เป็ น จำนวนมำกในช่ วงที่มีกำรสะสม storage protein อำจกล่ ำวได้ ว่ำ RER เป็ นบริเวณที่เกิดกำร สั งเครำะห์ protein กำรสร้ ำง protein body ในพวก cereal (Protein body formation in cereal grain) โครงสร้ ำง ของ protein ของ cereal grain ซึ่งอยู่ที่ endosperm จะมีรูปร่ ำงกลม (spherical) ขนำดเส้ นผ่ ำศูนย์ กลำง~2-5 m ประกอบด้ วย globoid และ crystalloid inclusion Prtoein body ใน starchy endosperm จะมีรูปร่ ำง เป็ น 3 แบบ คือ 1. Protein body ใน starchy endosperm ทีม่ ขี นำดใหญ่ เส้ นผ่ ำศูนย์ กลำง ~1-3 m 2. Protein body ขนำดเล็กเส้ นผ่ ำศูนย์ กลำง ~ 0.1-1 m 3. Crystalline protein body ทีม่ ลี กั ษณะ spherical protein body และ angular มีขนำดเส้ นผ่ ำศูนย์ กลำง ~ m 1-5 The Molecular Biology of N2 metabalism ยีนทีค่ วบคุมกระบวนกำร nitrogen fixation ใน สิ่ งมีชีวติ พวก free living bacteria เช่ น Klebsiella พบมีกลุ่มยีน 17 gene ที่เรียกว่ ำ nitrogen fixing (nif) gene ควบคุมกระบวนกำร nitrogen fixation Nif gene สำมำรถจำแนกได้ ตำมหน้ ำที่ดังนี้ 1. Stnectural protcin fer nitro genase nif gene กลุ่มนีจ้ ะควบคุมกำรสั งเครำะห์ enzyme nitrogenase gene กลุ่มนีค้ ือ nifH, nitD และ nif K 2. Gene ทีค่ วบคุมกำรสั งเครำะห์ protein ที่ เกีย่ วข้ องกับกำรสร้ ำง Mo Fe cofacter gene ในกลุ่มนีค้ ือ nif B, nifV, nifN, nifE และ nifQ 3. Gene ทีค่ วบคุมกำรสั งเครำะห์ flavodoxin electron tansport protlin ยีนในกลุ่มนีค้ ือ nif f และ nif J 4. Gene ทีค่ วบคุมกำรสั งเครำะห์ Protein ที่ช่วยในกระบวนกำรต่ ำงๆ ของ enzyme nitrogenase ยีนในกลุ่มนีค้ ือ gene nif M และ nif S 5. Gene กลุ่มทีค่ วบคุมกำรสั งเครำะห์ protein ทีท่ ำหน้ ำทีค่ วบคุมหรื อมีผลต่ อ nif gene ตัว ่ gene ในกลุ่มนีค้ ือ nif A และ nif L อืนๆ 6. Gene ที่ยงั ไม่ ทรำบหน้ ำที่แน่ นอน gene ใน ้ อ nif U, nif X และ nif Y กลุ่มนี คื จำกกำรศึกษำใน K. pneumoniae พบว่ ำ enzyme nitrogenase จะถูกสั งเครำะห์ ขนึ้ เมื่อ K. pneumoniae เจริญในสภำพที่เป็ น anaerobic และมี ไนโตรเจนจำกัด (nitrogen limiting) แสดงว่ ำ nitrogenase จะ denature เมื่ออยู่ในสภำพทีม่ ี O2 และ nitrogenase จะ ไม่ ถูกสร้ ำงขึน้ เมื่อมีแหล่ งของ reduced nitrogen ที่พืชสำมำรถนำไปใช้ ได้ Gene ทีค่ วบคุม nitrogen assimilation gene ทีค่ วบคุมกระบวนกำร nitrogen assimilation คือ gene กลุ่ม ntr ntr system ประกอบด้ วย 1. Ntr A 2. Ntr B 3. Ntr C Nodule แบ่ งเป็ น 2 gr. ใหญ่ โดยแบ่ งตำมรูปร่ ำง (shape) meristematic activity และ product ที่ได้ จำกกำร fix N2 ซึ่งสำมำรถแบ่ ง nodute ได้ เป็ น 1. Nodule ที่มีลกั ษณะ elongali0cylindncal คือ nodule ทีม่ ีรูปยำวเรียวเนื้อเยื่อเจริญบริเวณ apical ภำยใต้ สภำพ anaerobic (ไม่ มี O2) และสภำพที่ มี Nitrogen ในปริมำณจำกัด ntr A และ ntr C gene product จะกระตุ้นกระบวนกำร transcription ของ nif L A operon ซึ่ง nif A และ ntr A gene products จะกระตุ้น กระบวนกำรถอดรหัสของ nif operon อื่นๆ Symbiolic N2 fixation (Rhizobium-legume symbiosis) นอกจำกกำรที่ Rhizobium สำมำรถตรึง N2 ได้ กับพวก legume แล้ วยังสำมำรถตรึง N2 ให้ กบั พืช พวก non-legume เช่ นพืชใน family Eleagnaceae ซึ่งอยู่ร่วมกับแบบ symbiosis กับพวก actinomycete Frankia และระหว่ ำง water fern Azolla กับพวก Cyanobacteria กำรอยู่ร่วมกับระหว่ ำง Rhizobium-legume symbiosis จะมีกำรสร้ ำงปมทีร่ ำกของพืชตระกูลถัว่ (root nodule) root nodule เจริญมำจำก root cortical cell และมีกำรเรียงตัวอย่ ำงเป็ นระเบียบ (highly organized) (Vance et al, 1988) (apical meristem) มีกำรเจริญและแบ่ งตัวไป เรื่ อยๆ แบบไม่ หยุด (indeterminate) และมีกำร ขนส่ ง N2 ในรูปของ amide eg. ของพืชพวกนีเ้ ช่ น Alfalfa (Medicago sativa L.) pea (Pisum sativum L. และ Clover (Trifolium sp.) 2. Nodule ที่มีลกั ษณะกลม (spherical) โดยที่เนื้อเยื่อเจริญมีกำรเจริญแบบ determinate คือเจริญไปได้ ระยะหนึ่ง และจะหยุดกำรเจริญ (determinate) และมีกำรขนส่ ง N2 ในรูปของ ureides ตัวอย่ ำงพืชในกลุ่มนี้ เช่ น soybean (Glycine max L. Merr) และ commonbean (Phaseolus vulgaris L.) Rhizobium symbiotic gene Nod genes 1. symbiotic gene ของ Rhizobia อำจแบ่ ง ได้เป็ น gene ที่มีผลต่ อกระบวนกำร สร้ ำง ปม (nodulation) เรียกว่ ำ nod gene 2. Gene ทีค่ วบคุม enzyme nitrogenase เรียก nif gene 3. Gene ที่มีผลต่ อกระบวนกำร symbiotic N2 fixation เรียก fix genes (Earl et al., 1987; Johnston et al., 1987) ในกำรที่พืชจะสำมำรถตรึง N2ได้ ต้องมี gene ที่ จำเป็ นสำหรับกำรสร้ ำงปมและมี gene ที่ใช้ ในกำรตรึง N2 ได้ อย่ ำงมีประสิ ทธิภำพ ถ้ ำมีกำร mutation ของ nod A, B, C gene จะมีกำร block root hair curling, infeetion และ nodulation กำรสร้ ำงปมโดย rhizobial specics จะ specific มำก eg R. meliloti จะทำให้ เกิดปมใน alfalfa แต่ ไม่ ทำให้ เกิดปมใน clover และ soybean host. Specific nodulation จะถูกควบคุมด้ วย gene nod E, F G และ H gene ใน R. meliloti และโดย nod E และ nod F ใน R. leguminosarum (Kondoros; 1986; Johnston et al., 1987) nod D, A, B, C gens ถือว่ ำเป็ น Common nod gene nod gene product ได้ isolated และดูลกั ษณะ (Kondorosi and Kondorosi, 1986; Johnston et al., 1987) ส่ วนใหญ่ จะเป็ น membrane bound มี 1 ชนิดที่เป็ น transport protein ส่ วนที่เหลือเป็ น acyl carricr protein activation ของ nod gene ถูก control โดย secondary plant products ซึ่งพบใน root exudates (peters et al., 1986; Kosslak et al, 1987) promotor regions ของ nod operons ประกอบด้ วย 35-45 bp conserved sequence ซึ่งเรำเรียกว่ ำ nod box สำรประกอบใน root exudates ทีท่ ำหน้ ำทีก่ ระตุ้นกำร transcription ของ nod gene คือสำรพวก flavones, flavanones และ isoflavones. สำรเหล่ ำนีม้ ำจำกกำรรวมตัวของ phenolic cinnamic acid และ malonate. สำรทีเ่ ป็ นตัวกระตุ้นจำก root cxudates ของพืชพวก alfalfa, pea, clocer และ soybean เป็ นพวก luteolin ซึ่งเป็ นพวกสำร flavone hesperitin ซึ่งเป็ นสำรพวก flavanone 7, 4' -dihydroxyflavon และ 4' 7-dihydroeyisoflavone ซึ่งเป็ นพวก daidzein (peter et al., 1986; Johmston et al, 1989; Kosslak et al., 1987) Nif and fix gene นอกจำก nif gene แล้ วยังมี gene อีกกลุ่มหนึ่งที่ มีควำมสำคัญสำหรับ N2 fixation gene กลุ่มนีค้ ือ fix gene ซึ่งแยกได้ จำก Rhizobium Mutation ของ fix gene ทำให้ nodules ไม่ สำมำรถ fix N2 ได้ ทำให้ มี phenotype เป็ น Fix phenotype มีกำร identify gene fix ใน R. meliloti ซึ่งพบว่ ำมีอยู่ 4 genes คือ fix A, fix B fix C และ fix X (Earl et-al., 1987) ซึ่งพบว่ ำจะ link โดยใกล้ ชิดกับ nif cluster Interaction between N assimilation and Photosynthesisจำก ปฏิบัติกำรแสง 5H2O (2e-) 2.5 O2 + 5(2H-) + 5 จำกปฏิบัติกำรแสงในกำรแตกตัวของน้ำ 5 โมเลกุล จะได้ O2 2.5 โมเลกุลให้ e- 5 คู่ 5 (2 e) e- 1 คู่ (2 e-) นำมำ reduc 2 e- NO3 NaR NO2 NaR (nitrate reductase) NO2- เป็ นพิษต้ องถูก reduces ให้ เป็ น NH4+ โดย NiR (nitrite reductase) 2 e NO2NH4+ NiR ใช้ e- จำกปฏิกริ ิยาแสง 3 คู่ NH4+ ที่ได้ เป็ นพิษต้ องนำไปสร้ ำงสำรประกอบอินทรีย์ โดย enzyme GS (glutamine synthetase) และ GOGAT ดังสมกำร glutamate + NH4+ + ATP glutamine + ADP+Pi Glutamine + a ketoglutarate GOGAT + + 2NADH 2e- 2 glutamate + 2NAD Interaction between N assimilation and Respiration ในพืช C3 Plants จะมีกระบวนกำร nitrogen assimillation มำก เนื่องจำกมีกำรปลดปล่ อย NH4+ จำกกระบวนกำร photorespiration กำรสั งเครำะห์ amino acid นอกจำกต้ องกำร NH4+ แล้ วยังต้ องกำร C ซึ่ง C-skeleton ต้ องอยู่ใน form ของ keto acid ซึ่ง ได้ มำจำก respiratiory pathwary ดังนั้น glycolysis และ TCA cycle ในกระบวนกำร respiration เป็ นตัวให้ a - ketoglutarate สำหรับใช้ ในกำรสร้ ำง glutamate ซึ่งเป็ นสำรต้ นตอในกำร สั งเครำะห์ amino acid ตัวอื่นๆ ด้ วย ดังนั้นถ้ ำมี amino acid เพิม่ ขึน้ ควำมต้ องกำร C-skeleton มำกขึน้ อัตรำกำรหำยใจก็จะมำกขึน้ ดังนั้น อำจกล่ ำวได้ ว่ำ TCA cycle มีควำมสำมำรถ สร้ ำง C-skeleton สำหรับสั งเครำะห์ amino acid